มาดามเผิง ปราศรัยในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติถึงงานป้องกันและรักษาวัณโรค

CRI2018-09-30 13:56:34

เมื่อเร็วๆ นี้ มีพิธีเปิดประชุมระดับสูงว่าด้วยปัญหาการป้องกันและรักษาวัณโรคแห่งสมัชชาสหประชาชาติสมัยที่ 73 ที่นครนิวยอร์คของสหรัฐอเมริกา นางเผิง ลี่หยวน ภริยานายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ทูตสันถวไมตรีขององค์การอนามัยโลกในการป้องกันและรักษาวัณโรคและโรคเอดส์ ในฐานะตัวแทนบุคคลยอดเยี่ยมด้านการยับยั้งวัณโรค ได้กล่าวปราศรัยผ่านระบบวีดีโอ(คอนเฟอร์เรนซ์)ในพิธีเปิดตามคำเชิญ มีเนื้อหาดังต่อไปนี้

เพื่อนที่รักทั้งหลาย ดิฉัน เผิง ลี่หยวน เป็นทูตสันถวไมตรีขององค์การอนามัยโลกในการป้องกันและรักษาวัณโรคและโรคเอดส์ ขอแสดงความยินดีต่อการจัดการประชุมระดับสูงครั้งนี้ และกล่าวทักทายกับทุกๆ ท่าน

ดิฉันได้รับเลือกให้เป็นทูตภาพลักษณ์ประเทศจีนในการป้องกันและรักษาวัณโรคเมื่อปี 2007 และได้รับเลือกให้เป็นทูตสันถวไมตรีในปี 2011 ซึ่งเป็นภารกิจและหน้าที่ที่ดิฉันให้ความสำคัญและทะนุถนอม ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อถึงวันที่ 24 มีนาคมของทุกปี ดิฉันจะเดินทางไปยังเขตชุมชนที่มีการป่วยเป็นวัณโรคหนัก เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจของผู้คนทั้งหลาย ให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตน ส่งเสริมให้เกิดการป้องกัน

ปีนี้ดิฉันได้เดินทางไปที่มณฑลหูเป่ย ภาคกลางของจีน ดิฉันได้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับวัณโรคตลอดจนวิธีการที่รักษาสุขภาพที่แข็งแรงให้กับเด็กนักเรียนวัยสิบกว่าขวบ ขณะเดียวกันก็บอกถึงความสำคัญของการรักษาความสะอาดส่วนบุคคลกับเด็กๆ และขณะอยู่ในหมู่บ้านท้องถิ่นนี้ ดิฉันได้เจอผู้ป่วยวัณโรคที่หายเป็นปกติแล้ว ดิฉันให้กำลังใจกับเขาในการเป็นผู้ประชาสัมพันธ์การป้องกันและรักษาวัณโรค เพราะเขาสามารถแบ่งปันประสบการณ์ต่อต้านวัณโรคของตนให้กับคนอื่นได้มากยิ่งขึ้น

ในการเดินทางครั้งนี้ ดิฉันยังได้เข้าร่วมพิธีประกาศเกียรติคุณเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและรักษาวัณโรคได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในระดับที่ต้องใกล้ชิดกับผู้ป่วย จึงมีเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมมากมายสามารถแบ่งปันกับทุกคนได้

ดิฉันขอแบ่งปันเรื่องหนึ่งของเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ เธอคนนี้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาพยาบาลของเขตชุมชนมณฑลเสฉวน ภาระหน้าที่อย่างหนึ่งของเธอก็คือดูแลผู้ป่วยวัณโรค เมื่อเกิดแผ่นดินไหวเวิ่นชวนเมื่อปี 2008 บ้านเกิดของเธอเป็นเขตที่ประสบภัยร้ายแรงที่สุดเขตหนึ่ง ถึงแม้ว่าแผ่นดินไหวสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก แต่เธอพยายามหาวิธีติดต่อโดยตรงกับผู้ป่วยวัณโรค 540 คนที่เธอรับผิดชอบ แม้ว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อครุนแรงหลายครั้ง แต่เธอก็ยอมเสี่ยงชีวิตที่จะเดินทางไปหาผู้ป่วยเหล่านี้ให้ได้ และใช้เวลาร่วม 20 วันในการนำยาไปส่งให้ถึงมือผู้ป่วยวัณโรคที่ไม่มียาในขณะนั้นได้อย่างทันเวลา ในฐานะเป็นแพทย์ เธอเข้าใจความสำคัญของการรักษาผู้ป่วยวัณโรคด้วยยา ความพยายามของเธอได้รับการตอบแทน ผู้ป่วยวัณโรค 540 คนที่เธอรับผิดชอบได้หายดีทั้งหมด ไม่มีผู้ป่วยคนใดต้องประสบกับอาการโรคดื้อยา นับเป็นผลงานที่น่าประทับใจยิ่ง

ดิฉันยังต้องขอบคุณสื่อมวลชนและผู้สนับสนุนทั้งหลาย พวกเราได้ใช้ความพยายามร่วมกับอาสาสมัครในโครงการวัณโรคจีนกว่า 700,000 คน ช่วยกันเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัณโรค ให้กับประชากรจำนวนกว่าร้อยละ 75 ผลที่ได้รับก็คือกู้ชีวิตอันมีค่าไว้ได้

ดิฉันเองได้เป็นประจักษ์พยานในการพัฒนาอย่างรวดเร็วของโครงการวัณโรคจีน เนื่องจากมีบริการด้านการรักษาพยาบาลที่ดียิ่งขึ้น เราสามารถให้การวินิจฉัยและการักษาที่ทันเวลายิ่งขึ้นและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น ในเขตบางเขต การป้องกันและรักษาวัณโรคเป็นส่วนประกอบสำคัญของแผนงานลดปัญหาความยากจน การตรวจพบผู้ป่วยได้เพิ่มมากขึ้น และมีผู้ป่วยจำนวนมากยิ่งขึ้นได้รับการรักษาให้หายดี ทำให้อัตราการเจ็บป่วยและอัตราการเสียชีวิตได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

เมื่อดิฉันเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ดิฉันพยายามนำสถานการณ์วัณโรคของท้องถิ่นเข้าสู่วาระการประชุมของดิฉัน ดิฉันรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นว่ามีผู้ป่วยจำนวนมากยิ่งขึ้นได้รับความช่วยเหลืออย่างที่พวกเขาต้องการ ความพยายามร่วมกันของทุกรัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ เอ็นจีโอ ผู้เชี่ยวชาญ และอาสาสมัคร ทำให้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้สามารถกลายเป็นจริงได้

ทว่า การท้าทายที่หนักหน่วงยังคงมีอยู่ต่อไป วัณโรคที่มีลักษณะดื้อยายังเป็นภัยคุกคามใหญ่ วิธีการรักษามีข้อจำกัดและเงินทุนไม่เพียงพอ ยังคงเป็นปัญหาที่ทั่วโลกต้องเผชิญหน้าอยู่

องค์การอนามัยโลกได้ออก "ยุทธศาสตร์ยับยั้งวัณโรค" และขณะนี้ก็เป็นเวลาที่ต้องลงมือปฏิบัติแล้ว

ดิฉันขอเร่งรัดให้ท่านทั้งหลายเข้าร่วมขบวนไปกับพวกเรา

ขอให้พวกเราร่วมมือกันเปลี่ยนชีวิตของผู้คนนับล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากวัณโรค ยับยั้งวัณโรค

ดิฉันขออวยพรให้การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จ!

ขอบคุณทุกท่าน!

(Yim/zheng)

Not Found!(404)