ปีนี้เป็นปีที่ 40 ที่จีนดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ บรรดา Think-tank และบุคคลในแวดวงการค้าทั้งจีนและต่างประเทศระบุว่า การปฏิรูปและเปิดประเทศไม่เพียงแต่สร้างจีนให้เข้มแข็งและทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นเท่านั้น หากยังสร้างคุณูปการแก่การพัฒนาและสร้างความเจริญของโลกอีกด้วย โดยเห็นว่าการผลักดันการปฏิรูปและเปิดประเทศรอบใหม่เป็นวิธีรำลึกกระบวนปฏิรูปและเปิดประเทศที่ดีที่สุด ในการประชุมฟอรั่มคลังสมองประจำปี 2018 ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ บุคคลทั้งการเมืองและเศรษฐกิจจากจีนและต่างประเทศมีการอภิปรายอย่างคึกคักเกี่ยวกับประเด็น “จีนในการปฏิรูปและเปิดประเทศครบ 40 ปี” นายหม่า เจี้ยนถัง รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัย คณะรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า รอบ 40 ปีที่ผ่านมา กำลังโดยรวมของประเทศจีนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นเรื่อยๆ โครงสร้างเศรษฐกิจมีการยกระดับที่สูงขึ้น จีนกลายเป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของโลก มูลค่าเพิ่มจากการบริการเกิน 50% สถานภาพในระดับสากลได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น  “เมื่อปี 1978 จีดีพีของจีนเป็นเพียง 1.8% ของโลก เป็นเพียง 20% ของญี่ปุ่น

หรือเป็น 1 ใน 16 ของสหรัฐฯ เท่านั้น ปัจจุบันจีนกลายเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจอันดับที่สองที่โลกเป็นประเทศอันดับแรกในด้านการค้าสินค้าและสำรองเงินตราต่างประเทศ เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา จีดีพีของจีนขยับขึ้นมาเป็น 15.2% ของโลก เป็น 2.5 เท่าของญี่ปุ่น เป็น 63.1% ของสหรัฐฯ ยอดการนำเข้าส่งออกสินค้ามากถึง 4.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เงินตราสำรองต่างประเทศมากถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ”

รัฐบาลจีนย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าว่าจะผลักดันการปฏิรูปและเปิดประเทศรอบใหม่ ในอนาคตควรมีการรวดรัดการบริหารและปรับหน้าที่ของรัฐบาล เพื่อสร้างเงื่อนไขดียิ่งขึ้นแก่การจัดสรรทรัพยากรในตลาด เปิดประเทศให้มากขึ้นเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่

Bo/Ping/Cai