สถานีวิทยุซีอาร์ไอ รายงานว่า วันที่ 29 พฤศจิกายน นายเกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในงานแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งว่า นายแฟรงค์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเยอร์ ประธานาธิบดีเยอรมนี จะเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ นับเป็นครั้งแรกที่เขาเยือนจีนอย่างเป็นทางการภายหลังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเยอรมนี ระหว่างการเยือน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง จะพบปะเจรจาตามลำดับในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างจีน-เยอรมนี จีน-ยุโรป ตลอดจนปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาคที่สำคัญ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า นายแฟรงค์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเยอร์ ประธานาธิบดีเยอรมนี จะเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 5 - 10 ธันวาคมนี้ ตามคำเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นายเกิ่ง ส่วง กล่าวขณะแถลงกำหนดการเยือนจีนครั้งนี้ว่า ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา ความสัมพันธ์จีน-เยอรมนีมีแนวโน้มการพัฒนาที่ดี และอยู่ในระดับสูงมาก ปีนี้ นายกรัฐมนตรีสองประเทศได้มีการเยือนระหว่างกัน โดยการประชุมระหว่างรัฐบาลจีน-เยอรมนี ครั้งที่ 5 ได้ประสบความสำเร็จไปด้วยดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายหลิว เห้อ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้เยือนเยอรมนีและเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเมืองฮัมบูร์ก ภายใต้กรอบฟอรัมความร่วมมือระหว่างจีน-ยุโรป ครั้งที่ 8 การเดินทางมาเยือนจีนของนายแฟรงค์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเยอร์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นอีกครั้งถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำระดับสูงของสองประเทศที่แนบแน่น
นายเกิ่ง ส่วง ยังกล่าวอีกว่า ช่วงที่ผ่านมา ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างสองประเทศด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนได้ประสบความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ยอดมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศในปีนี้คาดว่าจะสูงเป็นประวัติการณ์ ในขณะเดียวกัน จีน-เยอรมนีในฐานะหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน มีการประสานงานและดำเนินความร่วมมือกันด้วยดีในด้านต่าง ๆ เช่น ร่วมกันรักษาความเป็นพหุภาคี และกลไกการค้าเสรี ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกที่มีลักษณะเปิดกว้าง ส่งเสริมสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาของโลก
นายเกิ่ง ส่วง กล่าวทิ้งท้ายว่า ช่วงที่นายแฟรงค์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเยอร์ ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี เขาเคยเดินทางเยือนจีนหลายครั้ง ซึ่งได้แสดงบทบาทที่ดีมากในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-เยอรมนี จีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเยือนจีนครั้งนี้จะเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจทางการเมือง และทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีน-เยอรมนี ตลอดจนเสริมพลังขับเคลื่อนการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-เยอรมนี จีน-ยุโรป และความร่วมมือในประเด็นระดับโลก
(tim/cai)