รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศข้อมูลตัวเลขเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมาระบุว่า ในเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว ยอดการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้านั้น  แม้ว่าจะดีกว่าค่ามัธยฐานของตลาดที่คาดว่าจะลดลง 0.4% และในเดือนพ.ย. ลดลงถึง 1.0% แต่แนวโน้มในอนาคตยังมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น

ก่อนหน้านี้สำนักข่าว Reuters เคยรายงานว่าแรงกดดันของทั่วโลกทำให้ธนาคารกลางของญี่ปุ่นได้รับแรงกดดัน  จากบทสรุปของที่ประชุมแสดงความคิดเห็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นในเดือนม.ค. แสดงว่านักกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นมีความเห็นว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอันเกิดจากกรณีพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทำให้ความกังวลในความเสี่ยงอันเกิดจากการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกเพิ่มสูงขึ้น

ข่าวระบุว่าไม่เพียงแต่ธนาคารกลางของญี่ปุ่นเท่านั้นที่มีความรู้สึกกังวล ธนาคารกลางของหลายแห่งรวมถึงธนาคารกลางของสหรัฐฯ ด้วยก็ได้รู้สึกถึงสัญญาณเตือน  สังเกตเห็นว่าสถานการณ์ของการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจโลกที่ลดลงกำลังขยายตัว อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐฯ ณ วันที่ 30 ม.ค. ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง  และได้เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างเป็นทางการ  โดยให้คำมั่นว่าจะอดทนต่อการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย  ส่งสัญญาณใหม่ล่าสุดว่าวงจรการคุมเข้มที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ ได้ใช้ตั้งแต่ปี 2015 อาจจะสิ้นสุดลงแล้ว