บทวิเคราะห์: “โรคกลัวจีน” มาจากไหน

CRI2019-04-03 14:06:48

เราไม่ควรเป็นฮิสทีเรีย โรคกลัวจีนในขณะนี้ยังไม่มีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ยุโรปเราไม่อนุญาตให้สร้างป้อมปราการกีดกัน

นี่เป็นคำเตือนของนายโฮลเจอร์ บิงแมนน์ ประธานสหพันธ์การค้าส่ง  การค้าระหว่างประเทศ และการบริการเยอรมนีที่มีต่อโรคกลัวจีน และการเปลี่ยนนโยบายอุตสาหกรรมของยุโรป

รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุว่า เยอรมนีและฝรั่งเศสเริ่มให้รัฐบาลแสดงบทบาทมากขึ้นต่อนโยบายอุตสาหกรรม โดยหวังว่า จะเสริมสร้างวิสาหกิจระดับแนวหน้าเพื่อรับมือกับการแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทั้งสองประเทศยังเรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและคุ้มครองธุรกิจสำคัญ

นายโฮลเจอร์ บิงแมนน์ กล่าวต่อเรื่องนี้โดยเตือนผู้คนว่า อย่าเป็นโรคกลัวจีน อย่าดำเนินนโยบายปิดประเทศ โดยเขากล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า  หากเราปิดประตูประเทศหรือทวีปยุโรปโดยคิดว่าจะเป็นการสร้างตำแหน่งงานและใช้ชีวิตที่ร่ำรวยได้นั้นถือเป็นความคิดที่ผิด

สิ่งที่ต้องระบุคือ ชาวยุโรปจำนวนไม่น้อยมักชมเชยการพัฒนาของจีนเกินจริง ทำให้ผู้คนตื่นกลัวโดยขาดหลักฐานที่แท้จริง ดั่งที่สื่อมวลชนฝรั่งเศสระบุไว้ว่า จีดีพีต่อหัวของจีนมีเพียง 7,000 ยูโร ส่วนจีดีพีต่อหัวของอียูนั้นมากกว่า 35,000 ยูโร จีนกับสหภาพยุโรปยังมีช่องว่างระหว่างกันอยู่ สหภาพยุโรปไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกไปกับเรื่องนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังพัฒนาอย่างมีคุณภาพ จีนจะต้องลดช่องว่างของจีนกับประเทศที่พัฒนาแล้วรวมไปถึงประเทศในอียูอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่จีนที่มั่งคั่งนั้นน่ากลัวจริงหรือ? ความจริงนั้นกลับกัน ดั่งที่นายโฮลเจอร์ บิงแมนน์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเยอรมนีกล่าวถึง การประกอบกิจการค้าขายในจีนว่า  ปัจจุบัน วิสาหกิจของเยอรมนีจำนวนไม่น้อยประกอบกิจการค้าในจีน สร้างรายได้กว่าร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด เขาย้ำว่า เยอรมนีไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์จากความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของจีน

เขากล่าวต่อไปว่า ผู้คนไม่ควรปิดประตูและดำเนินนโยบายอนุรักษ์นิยม แต่ควรเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของวิสาหกิจ ซึ่งรวมไปถึงการเพิ่มการลงทุนด้านการศึกษาวิจัยและสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานด้านดิจิทัลและการคมนาคม ขณะที่ นายเรนัลด์ จีราร์ด คอลัมนิสต์นิสต์ หนังสือพิมพ์ Le Figaro ได้เผยแพร่บทความระบุว่า หลายสิบปีมานี้ จีนเรียนรู้และนำเข้าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และรูปแบบนวัตกรรมของตะวันตก จีนนำผลงานจากต่างประเทศมาประยุกต์ใช้จนพยายามทำให้ดีกว่า นี่จึงเป็นเรื่องที่ตำหนิไม่ได้ สิ่งที่สหภาพยุโรปกลัวนั้นไม่ใช่จีน แต่เป็นการแบ่งแยกภายในต่างหาก สิ่งที่เป็นศัตรูตัวจริงของสหภาพยุโรป ศัตรูที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือตัวเราเอง ความย่ำแย่ของระดับการศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโยลีภายในสหภาพยุโรป ตลอดจนความซบเซาของอุตสาหกรรมในสหภาพยุโรป

(Tim/Cui/Zhou)

—  ข่าวที่เกี่ยวข้อง  —

Not Found!(404)