สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา การประชุมสุดยอดตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือในการประชุมอภิปรายเศรษฐกิจโลกครั้งที่ 17 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุม King Hussein Bin Talal ของประเทศจอร์แดน บุคคลแวดวงการเมืองและพาณิชย์กว่า 1,000 คนจากกว่า 50 ประเทศ ได้อภิปรายถึงหัวข้อหลัก “การสร้างเวทีความร่วมมือใหม่” ของการจัดประชุมครั้งนี้

นายคลอส มาร์ติน ชวาบ (Klaus Martin Schwab) ผู้ริเริ่มและซีอีโอการประชุมอภิปรายเศรษฐกิจโลกกล่าวสุนทรพจน์ว่า นานมาแล้ว สงครามและการปะทะกันทำให้เศรษฐกิจตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือพัฒนาอย่างยากลำบาก การประชุมอภิปรายเศรษฐกิจโลกมีเป้าหมายว่า สร้างกลไกพูดคุยเจรจาระยะยาว ส่งเสริมการแก้ปัญหายากลำบากระดับภูมิภาค เช่น สถานการณ์อิรัก ปัญหาซีเรีย การปะทะระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล และปัญหาผู้ประสบภัย เป็นต้น

สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่สอง อิบน์อัล-ฮุสเซน ของจอร์แดนมีพระดำรัสว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเขตตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือนั้น ต้องการความร่วมมืออย่างกว้างขวางระหว่างประเทศต่างๆ และทรงแนะนำถึงความพยายามของจอร์แดนในด้านการเรียนการสอนและนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรม พร้อมตรัสว่า ถึงแม้ว่าผู้ประสบภัยสร้างภาระหนักหน่วงให้กับเศรษฐกิจจอร์แดนก็ตาม แต่ทรัพยากรด้านบุคคลที่มีคุณภาพสูงนั้น ก็ได้ประกันศักยภาพการเติบโตของประเทศด้วย

นายแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวคำปราศรัยว่า การแก้ปัญหาปะทะกันระดับภูมิภาคนั้น มีความเร่งด่วน ในปัญหาปาเลสไตน์กับอิสราเอล สหประชาชาติสนับสนุน “โครงการสองประเทศ” มาโดยตลอด เขากล่าวอีกว่า คุณูปการของจอร์แดนในการรับผู้ประสบภัยนั้น เป็นที่น่าสนับสนุนอย่างยิ่งจากประชาคมโลก

นายมาห์ มุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ และนายมูฮัมมาดู บูฮารี ประธานาธิบดีไนจีเรียก็ได้ร่วมพิธีเปิดประชุมที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน เพื่อหารือในประเด็นสำคัญต่างๆ อาทิ “การปรองดองกับการบูรณะสร้างสรรค์” “การปฏิวัติด้านการดำเนินธุรกิจใหม่” “ความเป็นดิจิทัลด้านการค้าปลีก” และ “การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม” เป็นต้น และอภิปรายถึงความเป็นไปได้ที่จะจัดการปฏิวัติด้านอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ของประเทศในภูมิภาค

Yim/Ldan/Zhou