ระบอบสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนเป็นองค์กรอํานาจและระบอบทางการเมืองที่มีเอกลักษณ์ของจีน มีความแตกต่างในเชิงแก่นแท้กับ "ระบอบการแบ่งอํานาจสามประการ" ของประเทศบางประเทศ การที่จีนไม่ใช้ระบอบการแบ่งอํานาจสามประการ อันได้แก่ อํานาจนิติบัญญัติ อํานาจบริหารและอํานาจยุติธรรมนั้น ก็เพราะว่า ระบอบดังกล่าวไม่สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริงของจีนนั่นเอง

อํานาจรัฐทั้งปวงของจีนเป็นของประชาชน หน่วยงานที่ประชาชนสามารถใช้อํานาจของรัฐได้คือสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติและสภาผู้แทนประชาชนระดับต่างๆ ในท้องถิ่น ส่วนหน่วยงานบริหาร หน่วยงานการพิพากษา และหน่วยงานอัยการของรัฐต่างมาจากการแต่งตั้งของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ต้องรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนประชาชน และอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากสภาผู้แทนประชาชน ส่วนสภาผู้แทนประชาชนมาจากการเลือกตั้งประชาธิปไตย มีความรับผิดชอบต่อประชาชน และอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากประชาชน ระบอบเช่นนี้มีความสะดวกที่สุดสําหรับประชาชนในการกุมอํานาจรัฐในที่สุด และสอดคล้องกับหลักการประกันประสิทธิภาพของหน่วยงานของรัฐที่สุด ตลอดจนสอดรับกับระบบการปกครองของประเทศจีนอีกด้วย ระบบสภาผู้แทนประชาชนได้สะท้อนให้เห็นถึงหลักการแห่งระบอบประชาธิปไตยรวมศูนย์อย่างเต็มที่ ซึ่งด้านหนึ่งได้เสนอหลักประกันให้สภาผู้แทนประชาชนเข้าใช้อํานาจรัฐอย่างเป็นเอกภาพ และอีกด้านหนึ่งก็ได้แบ่งปันอํานาจการบริหาร อํานาจการพิพากษาคดีและอํานาจอัยการของรัฐอย่างชัดแจ้ง โดยได้คํานึงถึงประชาธิปไตยและประสิทธิภาพทั้งสองประการ ทําให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐมีการแบ่งงานกันอย่างเหมาะสมและมีความร่วมมือกัน ตลอดจนสามารถดําเนินงานได้อย่างประสานกลมกลืนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

การสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุที่จีนปฏิเสธ "ระบอบการแบ่งอํานานสามประการ" เพิ่มขึ้นนั้น มีความจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหยิบยกเอาคํากล่าวของนายเติ้ง เสี่ยวผิงดังต่อไปนี้มาอ้างอิง ซึ่งเติ้ง เสี่ยวผิงกล่าวว่า

"ระบอบประชาธิปไตยของฝ่ายตะวันตกก็คือมีการแบ่งอํานาจสามประการให้ออกจากกัน และใช้ระบบการรณรงค์หาเสียงแบบพหุพรรค เป็นต้น จีนจะไม่คัดค้านประเทศตะวันตกต่างๆ ในการใช้ระบอบดังกล่าวนัก แต่แผ่นดินใหญ่จีนจะไม่ใช้ระบบการรณรงค์หาเสียงแบบพหุพรรค และจะไม่ใช้ระบบการแบ่งอํานาจสามประการให้ออกจากกันหรือระบอบสองสภาแต่อย่างใด สิ่งที่จีนจะนําไปใช้นั้นคือสภาผู้แทนประชาชนแ่ห่งชาติซึ่งเป็นระบบสภาเดียว ทั้งนี้เพราะมีความสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของจีนมากที่สุด ถ้านโยบายและทิศทางมีความถูกต้องแล้ว ระบบเช่นนี้ก็จะมีผลประโยชน์อย่างมาก จะมีส่วนช่วยสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศชาติอย่างมาก และสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาพัวพันยุ่งยากต่างๆ ไปได้มาก อย่างไรก็ตาม ถ้านโยบายผิดเสียแล้ว ไม่ว่าจะใช้ระบอบอะไรก็ตาม ก็ย่อมจะไม่มีผลดีใดๆ เลย"