จนถึงเดือนกรกฏาคมปี 2003 โครงการทางรถไฟชิงไห่ทิเบตระยะที่สองได้เริ่มการก่อสร้างเป็นเวลาสองปี ปัจจุบัน ทางรถไฟสายนี้ได้ตัดทะลุภูเขาถังกู่ลาที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 5000กว่าเมตร และเข้าสู่เขตปกครองตนเองแห่งทิเบตแล้ว ทางรถไฟสายนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่รายหนึ่งของจีนในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจทางภาคตะวันตกของจีน การก่อสร้างทางรถไฟสายนี้จะสำแดงบทบาทอันใหญ่หลวงในการพัฒนาเศรษฐกิจทิเบตและเสริมสร้างการติดต่อทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างทิเบตกับมณฑลอื่นๆของจีน
ทางรถไฟชิงไห่ทิเบตเริ่มต้นจากเมืองซีหนิงมณฑลชิงไห่ทางภาคตะวันตกของจีนไปจรดที่เมืองลาซาเขตปกครองตนเองทิเบต ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 จีนก็มีข้อดำริจะก่อสร้างทางรถไฟที่เชื่อมโยงเขตแดนชั้นในกับทิเบต เมื่อปี 1974 โครงการระยะแรกของทางรถไฟชิงไห่ทิเบตได้เริ่มต้นจากเมืองซีหนิงมณฑลชิงไห่ไปถึงเมืองเก๋อเอ่ยมู่ี และสร้างแล้วเสร็จในปี 1984 เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2001 โครงการสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิเบตระยะที่สองที่มีความยาวทั้งหมด 1118กิโลเมตรโดยเริ่มต้นจากเมืองเก๋อเอ่ยมู่ไปจรดที่เมืองลาซาของทิเบตได้เริ่มก่อสร้างอย่างทั่วด้าน
โครงการก่อสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิเบตเป็นมาตรการที่สำคัญของจีนในการปฏิบัติยุทธศาสตร์บุกเบิกและพัฒนาภาคตะวันตกของจีน และให้ท้องที่ต่างๆของจีนพัฒนาไปอย่างสมดุล นายสู ผิง นักวิจัยของสถาบันวิจัยสังคมและเศรษฐกิจของศูนย์ทิเบตศึกษาแห่งประเทศจีนเห็นว่า การสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิเบตจะส่งอิทธิพลอันลึกซึ้งยาวไกลต่อการพัฒนาของทิเบต เขากล่าวว่า "การสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิเบตเป็นเรื่องสำคัญในการบุกเบิกพัฒนาภาคตะวันตกของจีน มีความหมายอันสำุคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาของทิเบต ผลที่เห็นได้ชัดที่สุดได้เชื่อมทิเบตเข้ากับเขตแดนชั้นใน การสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิิเบตแล้วเสร็จ หมายความว่าทิเบตกับเขตแดนชั้นในจะไม่มีอุปสรรคการติดต่อทางคมนาคมอีก"
เขตปกครองตนเองทิเบตตั้งอยู่ทางชาวแดนภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นมณฑลแห่งเดียวที่ไม่มีทางรถไฟ สิ่งปลูกสร้างขั้นพื้นฐานทางคมนาคมที่ล้าหลัง การติดต่อกับภายนอกที่ไม่สะดวก เป็นปัจจัยสำัคัญในการจำกัดการพัฒนาเศรษฐกิจทิเบตตลอดมา เป็นเวลานานมาแล้วที่ทรัพยากรสินแร่และผลผลิตทางเกษตรและปศุสัตว์ของทิเบตไม่สามารถส่งออกข้างนอก ส่วนผลิตภัณฑ์ทงอุตสาหกรรมและของใช้ประจำวันต่างๆของเขตแดนชั้นในที่ส่งไปยังทิเบตต้องใช้ต้นทุนอย่างสูงในการขนส่ง ทั้งนี้ได้ทำให้เศรษฐกิจทิเบตล้าหลังภูมิภาคอื่นๆของจีน
ปัจจุบัน ทรัพยากรที่ทิเบตต้องการนั้นส่วนใหญ่อาศัยการขนส่งทางหลวง แม้ว่ามีทางหลวง 4สายเชื่อมโยงเขตแดนชั้นในกับทิเบตก็ตาม แต่เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขทางดินฟ้าอากาศและภูมิประเทศของที่ราบสูงชิงไห่ทิเบต มีแต่ทางหลวงชิงไห่ทิเบตเท่านั้นสามารถขนส่งวัสถุตลอดปี ทางหลวงสายนี้จึงต้องแบบภาระหนักขึ้นทุกวัน ปัจจุบัน วัสถุสิ่งของต่างๆที่ส่งไปทิเบตนั้นมีร้อยละ 80ต้องส่งผ่านทางหลวงสายนี้ ดังนั้น การก่อสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิเบตจึงมีประสิทธิผลทางเศรษฐกิจและสังคมอันสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งสินค้าและปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมของทิเบต(ตอนต้น)
แหล่งข่าวแจ้งว่า หลังจากสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิเบตแล้วเสร็จ จะนำโอกาสมากมายให้กับการพัฒนาทิเบตในหลายๆด้าน เช่น ทรัพยากรสินแร่ที่อุดมสมบูรณ์ สิ่งมีชีวิตในที่ราบสูงและเครื่องดื่มสีเขียว สมุนไพรทิเบต การเกษตรและปศุสัตว์ ตลอดจนหัตถกรรมฝีมือประจำชนชาติทิเบต เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ที่ราบสูงที่มีเอกลักษณ์จำนวนมากจะส่งออกจากทิเบตตามทางรถไฟชิงไห่ทิเบต ส่วนการลดต้นทุนการขนส่งนั้น จะทำให้ทรัพยากรและผลิตภัณฑ์ทิเบตมีกำลังแข่งขันมากขึ้นในตลาดทั้งในและต่างประเทศ และดึงดูดวิสาหกิจทั้งในและต่างประเทศไปลงทุนที่ทิเบต
ทางรถไฟชิงไห่ทิเบตยังจะเสนอวิธีการเดินทางที่มีความสะดวก ความปลอดภัย ความสบายและราคาถูกให้กับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวทิเบตด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไปเที่ยวทิเบตมากขึ้น อัดฉีดชีวพลังใหม่ให้กับการพัฒนากิจการการท่องเที่ยวของทิเบต ศาสตราจารย์หลี่ จู๋ชิงของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชนชาติส่วนน้อยของมหาวิทยาลัยชนชาติส่วนกลางได้กล่าวว่า "เขตทิเบตไม่เหมาะสมกับการพัฒนาอุตสาหกรรมดั้งเดิม แต่กลับมีเงื่อนไขอันดีเยี่ยมในการพัฒนากิจการการท่องเที่ยว ทิเบตมีทรัพยากรการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และมีทัศนียภาพที่สวยงาม มีเสน่ห์แรงและมีแรงจูงใจสูง อีกทั้งทรัพยากรมนุษยศาสตร์อันหลากหลาย วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีประจำชนชาติทิเบตอันเข้มข้น การท่องเที่ยวย่อมจะช่วยให้อุตสาหกรรมกลายเป็นอุตสาหกรรมเสาค้ำของทิเบตได้
การก่อสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิเบตยังจะขับเคลื่อนกิจการบิรการของทิเบตให้พัฒนาด้วย พร้อมกับการสร้างสรรค์ทางรถไฟและสถานีรถไฟ เรานึกภาพได้ว่า จะมีเมืองใหม่สร้างขึ้นตามทางรถไฟและจะเสนอโอกาสการมีงานทำจำนวนมาก
จริงๆแล้ว ก่อนที่ทางรถไฟชิงไห่ทิเบตสร้างเสร็จ ทางรถไฟที่กำลังก่อสร้างอยู่ก็ได้นำผลประโยชน์ที่เป็นจริงให้กับชาวทิเบตที่อยู่ระหว่างทางแล้ว ทิเบตจะได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยตรงเป็นจำนวนเงิน 300ล้านหยวนในปี 2003 การจำหน่ายวัสถุก่อสร้าง การเสนออาหารให้หน่วยงานก่อสร้างทางรถไฟและส่งชาวนาชาวปศุสัตว์เข้าร่วมการก่อสร้างทางรถไฟ เป็นต้น นายสู ผิง สรุปว่า"การก่อสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิเบตได้อัดฉีดชีวพลังให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจทิเบตโดยตรง ได้เสนอโอกาสการทำงานมากมายให้กับชาวนาชาวปศุสัตว์ในท้องถิ่น จนถึงปัจจุบัน มีชาวนาชาวปศุสัตว์ประมาณ 6000-10000คนได้เข้าร่วมการก่อสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิเบตแล้ว ตามที่คาดไว้ ตั้งแต่ปี2002จนถึงปี2003 การก่อสร้างทางรถไฟก็ได้นำรายได้ 100ล้านหยวนให้กับเขตปศุสัตว์ทิเบตแล้ว"
ถ้ามองจากส่วนรวม การก่อสร้างทางรถไฟชิงไห่ทิเบตไม่เพียงแต่สามารถปรับปรุงสภาวะการคมนาคมของทิเบตให้ดีขึ้นและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทิเบตเท่านั้น หากยังจะเสนอโอกาสให้บุคคลภายนอกรู้จักทิเบตและเข้าใจทิเบตมากขึ้นอีกด้วย(ตอนปลาย)
|