นายมาหะเหม็ด อับบาสเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์เป็นเวลานาน เป็นบุคคลหมายเลขสองขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ที่รองลงมาจากนายยัสเซอร์ อาราฟัตซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไป และก็เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีกำลังแข่งขันมากที่สุดคนหนึ่ง นายมาหะเหม็ด อับบาสเคยเรียกร้องให้กลุ่มหัวรุนแรงของปาเลสไตน์หยุดปฎิบัติการทางการทหารทุกอย่างไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตามจนกระทั่งประณามอย่างเปิดเผยว่า กลุ่มหัวรุนแรงบางกลุ่มเป็นกลุ่มก่อการร้าย ทั้งยังมีการติดต่อกับกลุ่มปีกซ้ายของอิสราเอลเป็นเวลานาน แต่นายมาหะเหม็ด อับบาสมีชื่อเสียงและบารมีสู้นายยัสเซอร์ อาราฟัตไม่ได้ จึงยากที่จะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มแข็งกร้าวของปาเลสไตน์ ดังนั้น เขาจะได้รับความเชื่อถือจากประชาชนปาเลสไตน์ในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในไม่ช้านี้หรือไม่ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง

นักวิเคราะห์ชี้ว่า หลังจากนายยัสเซอร์ อาราฟัตได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ประชาชนปาเลสไตน์จำนวนไม่น้อยต่างประกาศว่าอิสราเอลเป็นฆาตกรสังหารนายยัสเซอร์ อาราฟัต และมีความไม่พอใจอย่างยิ่งที่ศพของนายอาราฟัตไม่สามารถฝังที่เยรูซาเลม นอกจากนี้ สถานการณ์เขตฉนวนกาซาสลับซับซ้อนมาก กลุ่มฮามาสมีอิทธิพลมากในเขตกาซา ภายใต้สถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนนี้ วันเดียวกัน ทางการปาเลสไตน์ได้ตั้งใจจัดการเหตุการณ์ยิงปืนที่กาซาอย่างเงียบๆ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะลดการกระทบกระเทือนที่มีต่อสถานการณ์ปาเลสไตน์ เพื่อให้การเจรจาระหว่างกลุ่มต่างๆภายในปาเลสไตน์สามารถดำเนินต่อไปได้ และหลีกเลี่ยงไม่ให้เขตปกครองตนเองปาเลสไตน์เกิดสภาพที่แตกแยกกัน