เมื่อเร็วๆนี้ เด็กป่วย 32คนในศูนย์การแพทย์คาริตัสฮ่องกงได้เกิดอาการมีไข้และเป็นโรคระบบหายใจ เนื่องจากฮ่องกงเคยมีโรคซาร์สแพร่ระบาดครั้งใหญ่เมื่อต้นปี 2003 ฉะนั้น เรื่องที่เด็กในศูนย์การแทพย์คาริตัสเกิดอาการเป็นโรคระบบหายใจพร้อมกันนั้นจึงได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากฝ่ายศูนย์การแทพย์และหน่วยงานสาธารณสุขของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตามผลสำรวจครั้งล่าสุดปรากฎให้เห็นว่า เชื้อไวรัสที่ทำให้เด็กป่วยอาจจะเป็นเชื้อParainfluenza หรือไวรัส พีไอวี(Virus PIV) และเชื้อจุลินทรีย์ สเตรปโตโคคัส โรคปอดอักเศบ แต่ผลในที่สุดนั้นยังคงต้องรอการพิสูจน์อีกครั้ง
ตั้งแต่วันที่ 5พฤศจิกายนนี้เป็นต้นมา เด็กป่วยที่รับการรักษาในศูนย์การแพทย์คาริตัสฮ่องกงนั้นทยอยกันเกิดอาการมีไขและเป็นโรคระบบหายใจ หลังจากนั้น ฝ่ายศูนย์การแพทย์ก็เริ่มใช้กลไกเตือนภัยโรคติดต่ออย่างรวดเร็ว และจัดการรักษาเด็กป่วยด้วยวิธีัแยกบริเวณ อีกทั้งยังได้แจ้งให้องค์การอนามัยโลกรับทราบทันทีด้วย นายโจว ไห่ยเทา ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอประจำฮ่องกงรายงานจากฮ่องกงว่า องค์การอนามัยโลกได้ให้คำยืนยันอย่างสูงต่อการกระทำของศูนย์การแพทย์คาริตัส เขากล่าวว่า
"เมื่อเร็วๆนี้ โฆษกสำนักงานองค์การอนามัยโลกประจำเขตแปซิฟิคตะวันตกได้กล่าวต่อสื่อมวลชนฮ่องกงเผยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฮ่องกงได้รายงานสภาพครั้งล่าสุดเกี่ยวกับเด็กป่วยในศูนย์การแพทย์คาริตัสที่เกิดอาการมีไข้ให้กับองค์การอนามัยโลกทุกวัน ทั้งได้ใช้มาตรการรับมือด้วย โฆษกผู้นี้เห็นว่า การที่ฮ่องกงได้รายงานสภาพนี้อย่างทันกาล แยกบริเวณผู้ป่วยและจัดการตรวจเช็คอย่างต่อเนื่อง เป็นการกระทำที่ถูกต้องมาก ตามผลตรวจเช็คครั้งล่าสุดของมหาวิทยาลัยฮ่องกงปรากฎว่า สิ่งที่ทำให้เด็กส่วนหนึ่งในศูนย์การแพทย์คาริตัสล้มป่วยพร้อมกันนั้นอาจจะเป็นเชื้อไวรัส พีไอวีและเชื้อจุลินทรีย์สเตรปโตโคคัสของโรคปอดอักเษบ แต่ผลในที่สุดยังต้องรอการพิสูจน์ต่อไป"
ปัจจุบัน เด็กป่วยในศูนย์การแพทย์คาริตัสฮ่องกงส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นแล้ว บัดนี้มีเพียง 2คนเท่านั้นที่ยังมีไข้ แต่ไม่มีวี่แววที่จะลุกลามต่อไป แต่นายโจง หนานซัน ผู้เชี่ยวชาญป้องกันรักษาโรคซาร์สได้กล่าวชี้ว่า หน่วยงานป้องกันและควบคุมโรคทั้งในแผ่นดินใหญ่และในฮ่องกงต่างก็เบาใจไ่่ม่ได้ เพราะว่าช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่ไวรัสโรคซาร์เกิดขึ้นง่ายที่สุด
แต่ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้เห็นว่า ฝ่ายปกครองและหน่วยงานทางสาธารณสุขระดับต่างๆของจีนได้ควบคุมขั้นตอนต่างๆในการป้องกันการระบาดโรคซาร์สแล้ว แม้ว่ายังปฏิเสธไม่ได้ที่จะพบผู้ป่วยโรคซาร์สบางรายในช่วงฤดูหนาวปีนี้และฤดูใบไม้ผลิปีหน้า แต่ก็จะไม่อาจเกิดสภาพแพร่ระบาดขนาดใหญ่เช่นปีที่แล้ว นายโจง หนานซันเผยว่า จีนกำลังทุ่มกำลังวิจัยและผลิตวัคซีนป้องกันซาร์ส ปัจจุบันได้ผลคืบหน้าค่อนข้างราบรื่น เขากล่าวว่า
"ซาร์สจะไม่อาจหายทันที บัดนี้ยา่รักษาโรคนี้ที่มีผลยังไม่มาก ฉะนั้น ปัจจุบัน ที่สำัคัญต้องทุ่มกำลังวิจัยและผลิตวัคซีนป้องกันโรคนี้ งานวิจัยวัคซีนป้องกันรักษาโรคซาร์สของจีนได้เป็นไปค่อนข้างราบรื่น คาดว่าถึงปลายปีนี้ก็จะมีผล"
|