|
| (GMT+08:00)
2005-03-20 18:57:47
|
 |
|
เที่ยวกว่างซีกับอาจารย์เกษม ( ตอนที่ 4 )
cri
สวัสดีค่ะท่านผู้ฟังที่เคารพ วันนี้วันที่20มีนาคม การเที่ยวกว่างซีของอาจารย์เกษม ทั่งทอง ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมของกิจกรรมประกวดความรู้เกี่ยวกับเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกว่างซีเรื่อง"กว่างซี-ดินแดนแสนงามและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ประจำปีค.ศ.2004ซึ่งร่วมกันจัดขึ้นโดยสถานีวิทยุซี.อาร์.ไอ.กับรัฐบาลกว่างซีนั้นได้เข้าสู่วันที่4
ก่อนอื่น ขอเชิญอาจารย์เกษมเล่าให้ฟังหน่อยนะคะว่า วันนี้ ได้ไปเที่ยงไหนมา?
สวัสดีครับ วันนี้อากาศยังคงหนาวเย็น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมอก ไม่สามารถมองเห็นตะวันได้ครับ เขาว่าที่กุ้ยหลินยิ่งจะหนาวกว่านี้อีก วันนี้ออกเดินทางจากโรงแรมที่หนานหนิง เพื่อไปกุ้ยหลิน รถออก8โมงเช้า ระยะทางประมาณ400กิโลเมตรไปทางเหนือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ4ชั่วโมงเศษๆ ระหว่างเส้นทางผ่านหมู่บ้านต่างๆ บ้างก็ปลูกผัก บ้างก็ปลูกอ้อย เลี้ยงเป็ด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ชาวบ้านยังคงใช้ควายในการไถพวนอยู่ตลอดเส้นทาง แต่มีอยู่เจ้าหนึ่งใช้วัวไถแดน วัวที่นี่จะเป็นวัวที่สีน้ำตาลเข้ม ตัวโต พอๆกับควาย ลักษณะของไถก็เหมือนกับของไทยแต่ก่อน ส่วนนานั้นจะมีหลายรูปแบบ บางแปลงเป็นวงรี หรือไม่ก็เป็นภาพ5เหลี่ยม6เหลี่ยม คันนาไม่เป็นเส้นตรง จะคดเคี้ยวไปมา บางทีก็เป็นซอยเป็นแปลงย่อยๆเล็กๆลงไปอีก พอเข้าเขตกุ้ยหลิน จากที่ราบลุ่มกลายเป็นภูเขา มีแม่น้ำลำธาร รถวิ่งรอบอุโมงค์ไปสองแห่ง ถึงเมืองกุ้ยหลินก็เลยเที่ยงไปแล้ว แวะทานอาหารเที่ยงที่ร้านที่ทำเต้าหู้เป็นอาหารหลัก จึงมีเมนูเต้าหู้นานาชนิด ทั้งแบบแข็งทั้งอ่อน แบบต้ม มีทอด มีผัด อิ่มหนำสำราญกันแล้วก็ไปเที่ยวเขางวงช้าง มีลักษณะคล้ายกับช้างกำลังดื่มกินน้ำโดยอยู่ในท่าคุกเข่า เอางวงจมน้ำในแม่น้ำหลีเจียง ในส่วนที่เป็นท้องช้างจะมีถ้ำใช้เก็บบ่มเหล้าซานฮัว ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเหล้าที่ใช้เวลาบ่มนานถึง50ปี ดังนั้น เหล้ายี่ห้อนี้ราคาจึงค่อนข้างแพง ในส่วนของรูปงวงช้าง หากมองตรงไป จะเห็นเขาอีกลูกหนึ่ง เป็นรูลุถึงกัน แม้จะห่างกันไปหลายกิโลเมตร เล่ากันว่า มีนักรบคนหนึ่งชื่อหม่าหยวน มีความสามารถทางการยิงธนู เคยใช้ธนู ยิงผ่านภูเขาทะลุไป3ลูกในธนูโดดเดี่ยว ปัจจุบันมีรูปปั้นเป็นรูปนักรบขี่ม้าในท่าปล่อยลูกธนูออกไป แล้วโดยคำนวณจากระยะทางและความเป็นไปได้ว่า นี่คือจุดที่ยิงธนู จากนั้นก็ไปที่เตี๋ยฉ่ายซาน หรือภูเขาพับผ้าไหม ภายในมีถ้ำมีบทกลองบทกวีต่างๆ กล่าวกันว่า มีนักรบคนหนึ่งมีทดลองดาบอยู่ที่นี่ จึงเห็นเป็นหินย้อยลงมา ลักษณะคล้ายกับถูกมีดฟันแบบถะถั่น ในตอนเย็นราวสองทุ่มกว่า นั่งเรือล่องสองแม่น้ำสี่ทะเลสาบ เรือจุคนได้ประมาณ50คน หลังคาเป็นกระจก มองเห็นท้องฟ้าได้ มีไก๊ด์พาเที่ยว แนะนำเริ่มจากฝั่งทะเลสาบก่อน ลากเราไปยังสวนต่างๆ ริมฝั่งมีการแสดงแสงสี บ้างก็เป็นรูปเจดีย์ ล่วงสะพานสองสะพาน ใต้สะพานแตกต่างกันไป บางแห่งเป็นภาพวาด บางแห่งก็เป็นเส้นลวดลายแตกต่างกัน นอกจากนี้ บางสะพานก็เลียนแบบสะพานประตูชัยของฝรั่งเศส มีน้ำพุดนตรี แสงไฟระยิบระยับละลานตาตลอดเส้นทาง จากนั้นเข้าสู่แม่น้ำหลีเจียงและแม่น้ำดอกท้อ ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ1ชั่วโมงครึ่ง เดิมทะเลสาบสี่แห่งไม่ได้เชื่อมติดต่อกัน ต่อมาได้มีการขุดเชื่อมติดต่อกัน และก็มีการติดกับแม่น้ำทั้งสอง ดังนั้น ก่อนจะออกจากทะเลสาบเข้าสู่แม่น้ำจะต้องรอปรับระดับน้ำให้เสมอกัน แล้วค่อยปล่อยเรือออกไปได้ เป็นที่น่าสังเกตว่า เมืองกุ้ยหลินเขาลงทุนสามารถที่จะขายได้ทุกอย่าง เฉพาะนั่งเรือล่องน้ำก็เต็มทุกลำได้ครับ วันนี้ขอรายงานแค่นี้ครับ สวัสดีครับ
พรุ่งนี้เราจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวกว่างซีของอาจารย์เกษมต่อไป พบกันวันพรุ่งนี้ สวัสดีค่ะ
|
|
|
