สวัสดีค่ะท่านผู้ฟัง รายการ "จีนไทยใช่ใครอื่น" สองครั้งที่ผ่านมา ดิฉันพาท่านผู้ฟังไปร่วมงาน ที่ทางมหาวิทยาลัยปักกิ่ง จัดถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมายุ 50 พรรษาของพระองค์ คงจำกันได้ใช่ไหมคะ ดิฉันหวังว่าที่เล่ามาทั้งหมด จะมีส่วนช่วยให้ท่านผู้ฟังเกิดความรู้สึกเหมือนได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศของงานด้วยตัวเองไม่มากก็น้อยนะคะ

วันนี้ เราจะยังเกาะติดงานที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งอีกครั้งหนึ่งค่ะ โดยดิฉันจะถือโอกาสนี้แนะนำ"ศูนย์แลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรมไทย-จีนสิรินธร" ที่ทางมหาวิทยาลัยปักกิ่งทูลเกล้าฯ ถวายเป็นของขวัญวันประสูติแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ให้ท่านผู้ฟังรู้จักมากขึ้นอีกหน่อยค่ะ

คือในภาคเช้า หลังจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงประกอบพิธีเปิดแพรคลุมป้ายชื่อศูนย์แลกเปลี่ยนแห่งนี้แล้ว อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ คุณหญิง สุชาดา กีระนันท์ กับ ประธานสภามหาวิทยาลัยปักกิ่ง ศาสตราจารย์ ดร.มิน เหวยฟาง ก็ได้ลงนามในข้อตกลงการแลกเปลี่ยนและร่วมมือกันทางวิชาการ ระหว่างสองสถาบันต่อหน้าที่ประชุมทันทีเลยค่ะ นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า ศูนย์แลกเปลี่ยนแห่งนี้ ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว

หลังพิธีลงนามแล้ว อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ คุณหญิง สุชาดา กีระนันท์ กรุณาให้สัมภาษณ์กับซีอาร์ไอ เกี่ยวกับเนื้อหาในข้อตกลงแลกเปลี่ยนที่ลงนามกับมหาวิทยาลัยปักกิ่งว่า

"การลงนามในข้อตกลงแลกเปลี่ยนวิชาการในครั้งนี้ จริง ๆ แล้วเป็นกิจกรรมแรกที่อยู่ภายใต้ศูนย์แลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรมไทย-จีนสิรินธร" ซึ่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 50 พรรษา ในการนี้ศูนย์นี้จะทำงานเพิ่มเติมไปจากเดิม ซึ่งแต่ก่อนนี้ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยปักกิ่ง กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม โดยเฉพาะเรื่องภาษา ภาษาจีน ภาษาไทย เรื่องของวัฒนธรรม และเอเชียศึกษาด้วย แต่ยังไม่มีทางด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ ดังนั้น สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงพระกรุณาอยากจะให้มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน แลกเปลี่ยนกันทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ข้อตกลงเมื่อเช้านี้ก็จะครอบคลุมการทำวิจัยร่วมกันระหว่างอาจารย์ของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาจจะมีการเรียนการสอนร่วมกัน การแลกเปลี่ยนอาจารย์ นิสิต นักศึกษา ของสองมหาวิทยาลัยซึ่งก็จะไปที่จุฬาฯ จุฬาฯก็มาที่นี่ด้วย ความประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก็อยู่ทรงที่ว่า มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของทั้งสองประเทศ เป็นมหาวิทยาลัยที่พระองค์ท่านได้ทรงใช้เวลาระยะหนึ่งศึกษาอยู่ ก็อยากให้สองมหาวิทยาลัยนี้มีความเชื่อมโยงประสานกัน ทำงานร่วมกันอย่างมาก ๆ เพื่อความเจริญเติบโตทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรมค่ะ"

ท่านผู้ฟังก็ทราบแล้วนะคะจากคำพูดของท่านอธิการบดี จุฬาฯ ว่า ศูนย์แลกเปลี่ยนแห่งนี้จะทำหน้าที่ประสานงานระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เพื่อขยายขอบเขตความร่วมมือจากสาขาสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ไปสู่สาขาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่ยังไม่เคยมีการร่วมมือแลกเปลี่ยนกันมาก่อน ด้วยเหตุนี้ ในการมาครั้งนี้ของท่านอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงมีคณบดีอีกหลายท่านที่อยู่ในสาขาวิทยาศาสตร์ ร่วมมาในคณะด้วย ได้แก่ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโลหะและวัสดุ และเท่าที่ดิฉันทราบ ผู้บริหารของจุฬาฯ คณะนี้ได้ไปเยี่ยมชมศูนย์วิทยาศาสตร์นาโนเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ในภาคบ่ายด้วยค่ะ

ศูนย์แลกเปลี่ยนแห่งนี้ จะมีที่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยปักกิ่งค่ะ คณะกรรมการบริหารของศูนย์ ประกอบด้วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร รองอธิการบดีเป็นผู้อำนวยการศูนย์ และผู้อำนวยการสถาบันไทยศึกษา มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ มีคณบดีจากคณะต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เป็นกรรมการศูนย์ นอกจากนี้ยังมีเอกอัครราชทูตในปัจจุบันและในอดีตของทั้งสองฝ่าย ประกอบกันขึ้นเป็นคณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ส่วนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ นั้น มหาวิทยาลัยปักกิ่งถวายพระเกียรติให้ดำรงตำแหน่ง ประธานกิตติมศักดิ์ของศูนย์ค่ะ

ท่านผู้ฟังคะ เรื่องราวของ "ศูนย์แลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรมไทย-จีนสิรินธร" ก็จบลงพร้อมกับเวลาของรายการพอดี ดิฉันวิภา อุตมฉันท์ ขอลาท่านผู้ฟังไปก่อน สวัสดีค่ะ