สวัสดีปีใหม่ค่ะท่านผู้ฟังที่รัก ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่อันเป็นมงคลนี้ ดิฉันในนามของผู้ร่วมงานทุกคนในสถานีวิทยุซีอาร์ไอภาคภาษาไทย และในฐานะของผู้จัดรายการ "จีนไทยใช่ใครอื่น" ขอกล่าวสวัสดีปีใหม่กับท่านผู้ฟังทุกท่าน ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพของท่านผู้ฟัง จงอำนวยพรให้ทุกท่านจงมีอายุ วรรณะ สุขะ พละ โดยทั่วหน้ากันตลอดปีใหม่ 2006 ค่ะ
ท่านผู้ฟังคะ วันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางสถานทูตไทยได้จัดงานชุมนุมนักเรียนไทยถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีนักเรียนไทยไปร่วมงานประมาณ 400 กว่าคน แน่นไปหมดทั้งสถานทูตเลยค่ะ ดิฉันถือโอกาสคุยกับคุณวศิน เรืองประทีปแสง ที่ปรึกษาทูตไทยที่ดูแลนักเรียนไทยในประเทศจีน เรื่องนี้เป็นความรู้ใหม่ ที่ดิฉันคิดว่าท่านผู้ฟังคงอยากรู้เรื่องเหมือนกัน เลยเอาเทปบันทึกเสียงมาเปิดให้ฟัง เสียงรบกวนที่ได้ยินก็คือเสียงคุยกันของนักเรียนไทยในงานวันนั้นค่ะ
"นักเรียนไทยที่ปักกิ่งขณะนี้น่าจะอยู่ราว ๆ 400-500 คน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเรียนทุนส่วนตัวที่มาเรียนภาษาจีนกันระยะสั้นบ้าง ยาวบ้าง ระยะสั้นก็ประมาณสักหนึ่งเทอม นอกจากนั้นก็มีที่จัดเรียนเป็นปี เป็นภาษาจีน เพื่อคนที่เรียนจบปริญญาตรีมาแล้วที่เมืองไทย แล้วมาเรียนต่อภาษาจีนเพื่อเสริมความรู้ภาษาจีนกลับไปทำงาน
นอกจากนั้นก็จะมีนักเรียนทุนของรัฐบาลที่ส่งมา เป็นทุนรัฐบาล ที่หลัก ๆ ก็จะมีทุนก.พ. หรือทุนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ภายใต้ความต้องการของกระทรวงต่าง ๆ
นอกจากนี้ปีที่แล้วปี 2004 ก็มีการส่งนักเรียนมาเป็นโครงการพิเศษของรัฐบาลชุดปัจจุบัน คือเรียกว่าโครงการหนึ่งอำเภอหรือกิ่งอำเภอต่อหนึ่งทุน ปี 2004 นี้ก็มีนักเรียนที่ได้รับทุนทั้งหมด อำเภอกิ่งอำเภอมีทั้งหมด 900 กว่าอำเภอหรือกิ่งอำเภอ ได้รับทุนประมาณ 900 กว่าคน หรือ 900 กว่าคนและ 900 อำเภอหรือกิ่งอำเภอ
ส่วนหนึ่งก็เรียนต่อที่ประเทศไทยประมาณ 200 กว่าคน 700 กว่าคนนั้นก็ได้มาศึกษาต่อยังต่างประเทศ และในต่างประเทศนั้นก็มีทั้งหมดประมาณ 15 ประเทศ 15 เมือง หนึ่งในนั้นก็เป็นประเทศจีน คือมีทั้งหมด 97 คน มีคนมาเรียนที่ปักกิ่ง 67 คน ที่เซี่ยงไฮ้ 30 คน รวมเป็น 97 คน นักศึกษาเหล่านี้ ปัจจุบันนี้คือ 1 ธันวา 2548 กำลังเรียนภาษาจีนอยู่เป็นปีที่ 2 ของที่นี่ บางส่วนก็เริ่มเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 2 ไปแล้ว คือที่ BLCU หรือมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมกรุงปักกิ่ง ส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในระหว่างการเรียนภาษาจีนเพิ่มเติมเพื่อที่จะเข้ามหาวิทยาลัยในปักกิ่ง ขณะนี้แยกกันเรียนอยู่ที่ปักกิ่งบ้าง แล้วก็ที่มหาวิทยาลัยเทียนสินบ้าง
เด็กเหล่านี้มีความตั้งใจเรียนและประสบความสำเร็จด้วยดี และก็ไม่มีปัญหาในการเรียนและการอยู่ ส่วนใหญ่ก็ปรับตัวได้ดี มีเฉพาะปัญหาช่วงแรก ๆ ที่คิดว่าอาจจะยังไม่ค่อยถนัดในเรื่องภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาจีนซึ่งค่อนข้างยาก แต่ปัจจุบันนี้ผ่านมาปีกว่า เท่าที่สอบถามดู เด็ก ๆ นักเรียนก็มีความสุขที่ได้มาเรียนที่นี่ มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนักเรียนไทยในปักกิ่ง และได้รับรับทุนรัฐบาลที่ได้เปิดโอกาสให้เด็กที่ครั้งหนึ่งไม่เคยมีโอกาสที่จะได้เรียนในกรุงเทพฯ แต่นี่ได้มีโอกาสมาเรียนถึงต่างประเทศ เด็ก ๆ เหล่านี้ก็มีความชื่นชมรัฐบาล หวังว่าโครงการเหล่านี้ก็คงจะได้รับการสนับสนุนและได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะทำให้โครงการเหล่านี้สำเร็จลุล่วง เพราะเด็กเหล่านี้เป็นกำลังสำคัญในอนาคต เมื่อจบการศึกษาไปแล้ว"
"แล้วรุ่นที่ 2 จะมาเมื่อไหร่คะ"
"รุ่นที่ 2 ก็ปี 2005 เราไม่ได้ส่งมาเป็นปีที่สอง ในปีหน้าจะส่งมาใหม่และมีการปรับปรุงแก้ไขอุปสรรคและก็ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศนั้น ๆ คิดว่าปีหน้ารัฐบาลมีโครงการที่จะคัดเลือกในประมาณปลายปีนี้ แล้วก่อนไปเรียน นักศึกษาก็จะมีการเตรียมพร้อมในด้านภาษา สำหรับจีนก็คงจะส่งมาในประมาณปลายเดือนสิงหาคม เพื่อจะเข้าเรียนในเดือนกันยายนปี 2006 แต่จำนวนคนก็แล้วแต่ว่านักเรียนประสงค์ที่จะเรียนประเทศไหน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักศึกษาผู้ได้ทุนที่จะสามารถเลือกประเทศได้โดยผ่านทางก.พ."
"ที่ผ่านมาคิดว่ามีปัญหาอะไรบ้างไหมคะ"
"ที่คิดว่าเป็นปัญหาก็ในเรื่องของการปรับตัว ตอนแรกเราเป็นห่วงมาก เพราะนักเรียนเหล่านี้มาจากหลายอำเภอหลายจังหวัด บางครั้งแม้กระทั่งบางคนอาจจะไม่เคยมากรุงเทพฯเลย และสถานทูตเราก็ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศต้นสังกัดเราว่า ให้ดูแลเด็กเหล่านี้ให้ดีหน่อยเพราะว่าเป็นรุ่นแรก โครงการนี้จะสำเร็จหรือไม่ก็อยู่ที่การดูแลของทางสถานทูตไทยในต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง แล้วก็มีหน่วยงานของจีนก็มีส่วนช่วยเหลือมากเช่นกัน หน่วยงานจีนที่ว่านี้ก็คือ China Scholarship Council ในขณะนี้ที่ผ่านมาก็เรียนในระดับเตรียมภาษาจีนอยู่ ที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จด้วยดี แต่สำหรับปีต่อ ๆ ไป เด็กนักเรียนก็เริ่มทยอยเข้ามหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องที่นักเรียนเลือก ก็มีทั้งสายวิทย์ และสายศิลป์ อีกหนึ่งปีก็จะดูว่าเมื่อเรียนทางด้านสายวิชาการที่ตนเองต้องการ เช่น เศรษฐศาสตร์ เรียนหมอ เรียนเภสัช ค่อยจะดูกันอีกทีว่าประสบความสำเร็จอย่างไร"
"ขอบคุณค่ะคุณวศินที่มาให้ความรู้กับเรา เราจะช่วยกันภาวนาให้นักเรียนทุนรัฐบาลตั้งอกตั้งใจเรียน ไม่ให้คนไทยผิดหวัง แล้วกลับไปรับใช้ประเทศชาติด้วยนะคะ วันนี้ดิฉันขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ"
|