สวัสดีค่ะท่านผู้ฟังที่รัก เพิ่งกล่าวสวัสดีปีใหม่กับท่านผู้ฟังไปหยก ๆ วันนี้ก็เป็นสัปดาห์ที่สองของปีใหม่อีกแล้วนะคะ ดิฉันยังเก็บตกเรื่องราวต่าง ๆ จากงานวันชุมนุมนักเรียนไทยที่ทางสถานทูตไทยจัดขึ้น เนื่องในวันเฉลิมพระชนมาพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 2 ธันวาคม มาเล่าให้ฟังไม่จบเลยค่ะ
ครั้งที่แล้วดิฉันพาท่านผู้ฟังไปพบคุณวศิน เรืองประทีปแสง ที่ปรึกษาทูตไทยพูดถึงนักเรียนทุนประเภทต่าง ๆ ถ้าคุณผู้ฟังจำได้ คุณวศินเน้นเป็นพิเศษเกี่ยวกับทุน "หนึ่งอำเภอกิ่งอำเภอหนึ่งทุน" ซึ่งมักเรียกกันสั้น ๆ ว่า "ทุนโอดอส" ย่อมาจาก One District One Scholarship ค่ะ
วันนี้เราจะไปคุยกับนักเรียนทุนโอดอสดูนะคะ ว่าเขาได้ทุนกันมาอย่างไร และมีชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างไร
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อน.ส.ยุพิน ทองภู นักเรียนทุนโอดอส มาจากอ.หนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์"
"สวัสดีครับผมสมยศ จันทร์บุญ มาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ อ.วังโป่งครับ"
" ชื่อวีนัสรินทร์ ศรีบุรินทร์ มาจากอ.ภูเรือ จ.เลยค่ะ"
นักเรียนทุนโอดอสคัดกันมาอย่างไร ยุพิน ทองภูเล่าให้ฟังว่า
" เงื่อนไขของนักเรียนที่สามารถสอบทุนนี้คือ ครอบครัวต้องมีรายได้ไม่เกิน 100,000
บาทต่อปี มีเกรดเฉลี่ยต่ำสุด 3.00 ขึ้นไป การสอบคือแต่ละเขต จะสอบคัดเลือกรอบแรกก่อน โดยคัด 3 คนต่อเขต จากนั้นก็จะไปสอบรอบสองในระดับจังหวัด มีจุดสอบที่เดียวกันคือโรงเรียนประจำจังหวัด ตัวแทนทั้ง 23 อำเภอของจังหวัดบุรีรัมย์มาสอบรวมกันด้วยข้อสอบเดียวกัน คือภาษาอังกฤษ 100 ข้อ สอบเสร็จแล้วช่วงบ่ายก็จะประกาศผล 3 คนที่ได้คะแนนสูงสุด จะต้องสอบสัมภาษณ์รอบที่สองค่ะ"
นักเรียนที่สอบผ่านการคัดเลือก สามารถเลือกวิชาที่เรียนและประเทศที่จะไปเรียนได้นะคะ มีให้เลือกกว่า 20 ประเทศค่ะ แต่ถ้าหากว่าประเทศที่เลือกนั้นบังเอิญมีคนเลือกจนเกินโควตา ก็จะถูกขอร้องให้เปลี่ยนไปเลือกประเทศอื่นแทน อย่างกรณีคุณยุพินก็ต้องย้ายประเทศค่ะ
"หนูเลือกวิชาเภสัชแผนโบราณ สาขานี้มีให้เลือกไปเรียนได้ 3 ประเทศคือ ญี่ปุ่น จีน และไทย ตอนนั้นหนูเลือกไปประเทศญี่ปุ่นค่ะ ผ่านไปประมาณ 2 เดือน พวกเราก็ได้ไปอบรมประจำภาค มีภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือค่ะ ตอนนั้นหนูก็ยังคงยืนยันเลือกไปเรียนประเทศญี่ปุ่นอยู่ จากนั้นก็มีการอบรมทั้งประเทศ ก็มีการแนะแนวว่า แต่ละประเทศเป็นอย่างไรบ้าง พูดถึงการดำรงชีวิต ค่าครองชีพ แล้วก็สาขาวิชาอะไร แล้วก็ได้ยินก.พ.ประกาศว่า ตอนนี้นักเรียนที่เลือกไปญี่ปุ่นและฝรั่งเศสมีเยอะ สองร้อยกว่าคนไปญี่ปุ่น ก็เลยแนะนำให้ไปประเทศอินเดียกับจีนแทน เพราะสองประเทศนี้ยังมีคนไปน้อย และต่อไปประเทศนี้จะเจริญมากขึ้น"
"ทุนโอดอสทั้งหมดทุกประเทศมี 923 คนค่ะ และแยกไปตามประเทศต่าง ๆ มี 165 คนไป
ฝรั่งเศส ประมาณ 113 คนไปที่ญี่ปุ่น อันดับสามคือประเทศจีนนี่ค่ะ 95 คน"
"ทุนรุ่นแรกที่ปักกิ่งมี 66 คน ที่เซี่ยงไฮ้ประมาณ 30 กว่าคนค่ะ"
นักเรียนทุนโอดอสรุ่นแรก ปีนี้ก็เป็นปีที่ 2 ของการเรียนแล้วนะคะ ส่วนใหญ่ยังเตรียมความ
พร้อมด้านภาษาก่อนที่จะเข้าสู่วิชาเฉพาะ
"ตอนนี้หนูเรียนเตรียมภาษาที่มหาวิทยาลัยจิงเม่าค่ะ"
"ส่วนผมเรียนเตรียมภาษาอยู่ที่ BLCU ครับ กำลังจะเรียนบริหารธุรกิจสาขากการจัด
การทรัพยากรมนุษย์"
"กำลังจะเรียนแพทย์แผนจีนค่ะ ที่มหาวิทยาลัยจงอีเย่า"
"จะเรียนภาษาครับ ที่ BLCU ครับ"
นักเรียนทุนโอดอสทั้ง 900 กว่าคน 20 กว่าประเทศ ถือเป็นนักเรียนทุกก.พ. นะคะ ก็คือ
ทุนรัฐบาลนะแหละค่ะ ทุนที่ได้รับจึงค่อนข้างสูง จนเป็นที่อิจฉาของนักเรียนทุนอื่นไม่น้อยเลยค่ะ
" ได้เดือนละ 800 ดอลล่าร์ค่ะ ไม่เท่ากันทุกประเทศค่ะ แล้วแต่ค่าครองชีพของแต่ละ
ประเทศ ที่เซี่ยงไฮ้ได้ 850 ค่ะ"
แหม รัฐบาลลงทุนไปมากมายส่งเยาวชนไปเรียนเมืองนอกปีละเกือบพันคนอย่างนี้ ประชา
ชนไทยย่อมคาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากความรู้ที่เยาวชนเหล่านั้นไปร่ำเรียนมาใช่ไหมคะ
"นักเรียนทุนโอดอส เมื่อเรียนจบต้องกลับมาพัฒนาท้องถิ่นตัวเองค่ะ เราก็มีการถก
กันว่าถ้าในท้องถิ่นนั้น ไม่มีสาขาที่เราเรียนมา เราจะทำอย่างไร ทางก.พ.บอกว่ารัฐบาลจะจัดหางานให้ ว่าควรจะไปทำที่ไหนก็ได้ในประเทศไทยที่มีตำแหน่งว่าง อาจจะเป็นจังหวัดอื่นหรืออำเภออื่นก็ได้ แต่ว่าให้บริหารงานในประเทศเรา"
"ผมคิดว่าผมก็อยากจะกลับเมืองไทยนะครับ แต่ถ้ามีงานในประเทศจีน ต้องเป็น
งานที่เกี่ยวข้องกับเมืองไทย อย่างบริษัทไทยที่อยู่ในจีน ผมคิดว่าส่วนนี้ก็สามารถช่วยประเทศเราได้เหมือนกัน"
ค่ะ ดิฉันว่ายังไงก็กลับเมืองไทยดีกว่าค่ะคุณสมยศ ที่เมืองไทยยังไงก็ยังมีงานให้ทำ และต้องการคนที่มีทั้งความรู้และภาษาอย่างนักเรียนทุนโอดอสไปช่วยกันพัฒนาประเทศแน่นอนค่ะ ดิฉันขอเป็นตัวแทนคนไทย เอาใจช่วยให้นักเรียนโอดอสทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียน แล้วจะได้กลับประเทศไทยโดยเร็วนะคะ
วันนี้ดิฉันขอลาคุณผู้ฟังไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ
|