|
(GMT+08:00)
2006-01-18 20:59:18
|
|
สมเด็จพระเทพฯพระราชทุนให้นักเรียนไทยศึกษาที่ปักกิ่ง
cri
ฟังรายการ วันนี้ เรายังคงอยู่ในบรรยากาศของงานถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่สถานทูตไทยในกรุงปักกิ่งอยู่นะคะ วันเฉลิมพระชนมพรรษาวันนั้น เป็นวันชุมนุมนักเรียนไทยจริง ๆ เลยค่ะ นักเรียนไทยในปักกิ่งและเทียนสินเกือบทั้งหมด มารวมกันอยู่ที่นี่เพื่อถวายความจงรักภักดีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ดิฉันได้ชวนนักเรียนทุน ODOS หรือนักเรียน "ทุนหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน" มาคุยกับท่านผู้ฟังไปแล้วเมื่อครั้งก่อน วันนี้จะชวนนักเรียนทุนพิเศษอีก 2 คน มาคุยกับท่านผู้ฟังค่ะ ที่ว่าพิเศษก็พิเศษจริง ๆ นะคะ ไม่ได้พูดเล่น นักเรียนสองคนนี้เป็นนักเรียนทุนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีค่ะ ดิฉันเคยเล่าเรื่องสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานทุนช่วยเด็กนักเรียนจีนที่ยากจนของโรงเรียนมัธยมหงจื้อในปักกิ่ง 2 คนไปแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน ท่านผู้ฟังจำได้ไหมคะ ครั้งนี้เราจะได้เห็น สมเด็จพระเทพฯพระราชทานทุนให้กับนักเรียนไทย ให้ไปศึกษาต่อในประเทศจีนบ้าง ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องแสดงถึงความเอาพระทัยใส่และพระเมตตาของสมเด็จพระเทพฯที่มีต่อเยาวชนทั้งจีนและไทยอย่างเสมอภาคกันค่ะ "สวัสดีค่ะ หนูชื่อนางสาวชญานิษฐ์ อัศวตั้งตระกูลดีค่ะ เพิ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ค่ะ" "ผมชื่อนายเอกณัฐ เวทยะวาณิชครับ จบจากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์เหมือนกันครับ" "ขณะนี้ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เพิ่งมาปักกิ่งได้ 3 เดือน ได้รับพระราชทานทุนของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีค่ะ มาศึกษาต่อทางด้านฟิสิกส์" "ผมก็คือจะต้องมาศึกษาต่อทางด้านคณิตศาสตร์ครับ" "เดิมศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เมื่อศึกษาในระดับชั้นม.6 ก็ได้ข่าวว่ามีทุนการศึกษาเข้ามาภายในโรงเรียนค่ะ คือเป็นทุนที่สมเด็จพระเทพฯทรงพระทาน ให้ทางผู้อำนวยการคัดเลือกนักเรียนระดับม.6 ก็คือรุ่นของพวกหนูสองคนเพื่อมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งทางด้านคณิตศาสตร์ แล้วก็ฟิสิกส์ จะเป็นการคัดเลือกภาษาจีนเบื้องต้น แล้วก็มีผลงาน portfolio ทางด้านวิทยาศาสตร์" "แล้วก็เคยเข้าค่าย ส.อ.ว.น. เกี่ยวกับทางด้านโอลิมปิกด้วยครับ เพราะว่าทุนจะให้มาเรียนสองสาขา ก็คือคณิตศาสตร์หนึ่งคน ฟิสิกส์หนึ่งคน ดังนั้นควรจะให้มีความรู้ทางด้านนี้ที่ค่อนข้างดีพอสมควร เป็นโครงการส่งเสริมคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์โอลิมปิก โครงการนี้เป็นโครงการของส.อ.ว.น." "ทั้งสองคนเรียนภาษาจีนคะแนนนำคนอื่นใช่ไหมคะ" "ก็เป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกครับ แต่ที่สำคัญคือจะมีการคัดเลือกการสอบสัมภาษณ์ ก็คือโดยคุณหญิงสุมณฑา อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒครับ" "มาเรียนที่นี่ 3 เดือนแล้วใช่ไหมคะ รู้สึกยังไงบ้างคะ" "ตอนแรก ๆ ก็ยังไม่เคยชิน ช่วงนี้เคยชินแล้วค่ะ" "ทุนของสมเด็จพระเทพฯพระราชทานให้เรียนจนจบปริญญาตรีหรือไงคะ" "ให้เราเรียนไปถึงที่สุด เรียนได้แค่ไหนก็แค่นั้น ขึ้นอยู่กับตัวเราเองนะครับ" "ก่อนมาได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพฯไหมคะ" "ได้เข้าเฝ้าทูลลาค่ะ" "รู้สึกยังไงบ้างคะ โอกาสที่หาไม่ค่อยได้แบบนี้" "รู้สึกดีใจมาก ๆ แล้วก็รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ" "เช่นกันครับ" "คิดว่าต่อจากเราไปจะยังมีทุนสมเด็จพระเทพฯอีกไหม" "เรื่องนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดนะครับ เพราะว่าเพิ่งเป็นทุนแรกที่ให้ เพราะฉะนั้นท่านคงจะดูผลของรุ่นนี้ก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่คงจะทำให้ดีที่สุดครับ" "แล้วอย่างนี้ต้องรายงานผลการเรียนให้สมเด็จพระเทพฯทรงทราบไหมคะ" "เราต้องกราบบังคมทูลถวายรายงานผลการเรียนให้สมเด็จพระเทพทรงรับทราบด้วยครับ" "แล้วก่อนมา สมเด็จพระเทพฯได้ตรัสอะไรกับพวกเราทั้งสองคนคะ" "พระองค์ตรัสว่า ให้ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด แล้วก็อย่าเอาทางด้านวิชาการอย่างเดียว ความรู้ทุกอย่างต้องรับ" "แล้วท่านก็ตรัสว่าไม่ต้องเครียดมาก ให้ตั้งใจเรียนไปเลย" น่าชื่นใจนะคะท่านผู้ฟัง ในฐานะประชาชนคนไทยดิฉันยังอดชื่นใจแทนนักเรียนทุนพระเทพฯทั้งสองไม่ได้ ถ้าเป็นพ่อเป็นแม่จะภาคภูมิใจขนาดไหน นอกจากนักเรียนทุกพระเทพฯแล้ว ดิฉันยังอยากแนะนำให้รู้จักนักเรียนทุนอีกประเภทหนึ่ง ทุนนี้มีมานานหลายปีแล้วค่ะ และก็เป็นทุนที่ดิฉันรู้จักมากที่สุด เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นทุนแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ที่ดิฉันรู้จักหรือได้ยินบ่อย ๆ เพราะเป็นทุนที่พานักศึกษาและข้าราชการจีนไปเรียนที่เมืองไทย สมัยที่ดิฉันสอนอยู่ที่จุฬาฯ ก็เคยสอนคนเหล่านี้บ่อย ๆ ค่ะ กลับกันก็มีนิสิตจุฬาฯหรือข้าราชการไทยที่ดิฉันรู้จักได้รับทุนไปเรียนที่เมืองจีนหลายคนเช่นกัน เรามารู้จักกับตัวอย่างของนักเรียนทุนนี้อีกสักคนดีไหมคะ "สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อสุภาพิศ โชติธรรมวัฒนา กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง สาขาภาษาศาสตร์และภาษาศาสตร์ประยุกต์ มาด้วยทุนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน เป็นทุนแลกเปลี่ยนระดับรัฐบาลกับรัฐบาล ปีละ 7 คน ไทยส่งมา 7 จีนส่งไป 7 โดยรัฐบาลจีนเป็นผู้สนับสนุนการเล่าเรียนและค่าเบี้ยเลี้ยงเดือนละ 1100 หยวน รัฐบาลไทยให้สมทบเดือนละ 6000 บาท โดยรวมแล้วถือว่าพอสมควร ถ้าใช้ประหยัดก็พอใช้ เมื่อจบแล้วต้องกลับทำงานให้ต้นสังกัดที่ประเทศไทย ยังไงก็กลับไปรับใช้ประเทศไทยแน่นอนคะ" สรุปแล้วก็คือ ทุกวันนี้ นักเรียนไทยมีโอกาสที่จะไปเรียนต่อประเทศจีนได้หลากหลายทาง ทุนที่ให้ก็มีมาก ทั้งทุนรัฐบาลไทย ทุนรัฐบาลจีน แล้วยังมีทุนที่สมเด็จพระเทพฯทรงสนับสนุนอีก เยาวชนไทยที่มีความตั้งใจจะชิงทุนเหล่านี้ก็ขอให้ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี เมื่อโอกาสมาถึง เราก็เป็นคนหนึ่งที่พร้อมจะเข้าถึงโอกาสนั้นแน่นอนค่ะ วันนี้รายการจีนไทยใช่ใครอื่นขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ
|
|
|