ระยะหลังๆมานี้ ปัญหาค่ารักษาพยาบาลแพงนับวันจะโดดเด่นขึ้นในประเทศจีน ในที่ประชุมประจำปีของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนที่กำลังดำเนินอยู่ในกรุงปักกิ่ง บรรดาผู้แทนประชาชนได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง และเสนอข้อเสนอบางประการเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

เมื่อเร็วๆนี้ นางหาน ผิง ชาวเมืองสวี่ ชาง มณฑลเหอหนาน ทางภาคกลางของจีนเกิดไม่สบายเป็นหวัด ไปรักษาที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ในตัวเมือง เสียค่ารักษากว่า 200 หยวน เงินจำนวนนี้เกือบเท่ากับรายได้ต่อเดือนของเกษตกรชาวจีนคนหนึ่ง นางหาน ผิงกล่าวว่า

"คนเรามักจะกล่าวว่า เป็นอะไรก็ตามต้องอย่าเป็นโรค เมื่อเร็วๆนี้ดิฉันเป็นหวัด นายแพทย์เสนอให้ดิฉันไปรับการฉีดน้ำยาสองขวด เสียค่าน้ำยาไป 200 กว่าหยวน รู้สึกว่าแพงเกินไปค่ะ"

สภาพดังกล่าวไม่ใช่ปรากฎการณ์เฉพาะคนสองคนเท่านั้น ผลการสำรวจปรากฎว่า เมื่อพลเมืองจีนเป็นโรค มีจำนวนประมาณครึ่งหนึ่งไม่ยอมไปรักษาที่โรงพยาบาล และมีประมาณ 30% ที่ควรรักษาอยู่ในโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ยอมอยู่ในโรงพยาบาล สาเหตุสำคัญประการหนึ่งก็คือ ค่ารักษาพยาบาลแพงเกินไป

ศาสตราจารย์ก่วน เสี่ยวหง ผู้แทนประชาชนจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์หนานจิงของจีนให้ความสนใจกับปัญหาค่ารักษาพยาบาลแพงมาหลายปี เธอเคยไปตรวจสอบในโรงพยาบาล โรงงานผลิตยา หน่วยงานรัฐบาลตลอดจนไปติดต่อกับแพทย์และผู้ป่วยหลายครั้ง เธอมีความเห็นว่า สาเหตุอันดับแรกที่ทำให้ค่ารักษาโรคแพงคือ ค่ายาแพงเกินไป สาเหตุที่ทำให้ค่ายาแพงก็เพราะว่า ผู้ประกอบกิจการยาหวังจะได้กำไรจึงขึ้นราคาตัวยาไปเรื่อยๆในระหว่างการค้าขายหมุนเวียน อีกด้านหนึ่งคือ ยารักษาโรคชนิดเก่าบางอย่างเมื่อเปลี่ยนตัวเป็นตัวยาชนิดใหม่ด้วยวิธีการต่างๆแล้ว ก็จะปรับขึ้นราคาอย่างมาก เธอกล่าวว่า

"ความจริง ยาบางชนิดทั้งราคาถูกและได้ผลดีด้วย แต่เนื่องจากมีกำไรน้อย โรงงานผลิตยาจึงใช้วิธีเปลี่ยนหีบห่อให้สวยขึ้น แล้วก็ปรับขึ้นราคาไป"

สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ รัฐบาลยังลงทุนในกิจการ การรักษาพยาบาลไม่พอ นายเว่ย เสี่ยวชุน ผู้แทนประชาชน รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของมณฑลซันซีกล่าวว่า

"นโยบายด้านสาธารณสุขของจีนไม่ได้ให้ความสำคัญมากเพียงพอกับการลงทุนในกิจการสาธารณสุข ดังนั้น โรงพยาบาลจึงต้องไปหาเงินด้วยตนเอง และแน่นอนเงินก้อนนี้ย่อมจะต้องได้มาจากผู้ป่วย"

กล่าวได้ว่า การรักษาพยาบาลแพงเป็นปัญหายากลำบากในระดับทั่วโลก แม้ในประเทศพัฒนาบางประเทศเช่นในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ก็กั

งวลกับภาระอันหยักหน่วงในด้านการประกันการรักษาพยาบาล เมื่อเป็นเช่นนี้ ประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนา จะทำอย่างไรจึงจะแก้ไขปัญหาการรักษาพยาบาลแพงให้ตกไปได้เล่า?

บรรดาผู้แทนประชาชนพากันเสนอข้อเสนอของตนว่า ปมเงื่อนของการแก้ปัญหาดังกล่าวคือ ต้องลดราคาของยารักษาโรคให้ต่ำลง ปีหลังๆนี้ รัฐบาลจีนเคยลดราคาของยารักษาโรคมาแล้ว 9 ครั้ง แต่ได้ผลไม่มาก บรรดาผู้แทนประชาชนชี้ว่า ต้องแก้ปัญหาในระบบการหมุนเวียนยารักษาโรคให้ได้ก่อนจึงจะลดราคายาได้อย่างแท้จริง

มาตรการอีกประการหนึ่งคือ ทางรัฐบาลควรเพิมการลงทุนต่อกิจการสาธรณสุขและการรักษาพยาบาลให้มากขึ้น แต่เนื่องจากปัจจุบัน รายได้ถัวเฉลี่ยต่อคนของประชาชนจีนยังค่อนข้างต่ำ ฉะนั้น ภายในในระยะเวลาสั้นๆ จึงเป็นการยากมากที่รัฐบาลจะเพิ่มการลงทุนจำนวนมากได้ ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้แทนประชาชนจึงเห็นว่า ในปัจจุบัน การใช้เงินทุนของรัฐบาลให้ดีจึงมีความสำคัญยิ่ง และการลงทุนของรัฐบาลควรโน้มเอียงไปสู่ชั้นพื้นฐานมากกว่า