พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา ทุกครั้งที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ผู้นำจีนและคณะผู้แทนชุดสำคัญของจีนเข้าเฝ้า จะทรงมีพระราชดำรัสถามถึงสภาพการพัฒนาของจีน ทรงแสดงให้เห็นถึงน้ำพระทัยที่ห่วงใย และทรงพระปิติที่ประเทศจีนมีการพัฒนาที่รวดเร็ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชทรงสนพระทัยเป็นพิเศษต่อการพัฒนาด้านชลประทานในประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการก่อสร้างเขื่อนซันเสีย ในแม่น้ำแยงซีเกียง

วันที่ 4 กันยายน พุทธศักราช 2545 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชทรงมีกระแสพระราชดำรัสกับนายหลี่เผิง อดีตประธานคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนขณะเข้าเฝ้า ณ พระตำหนักวังไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า โครงการก่อนสร้างเขื่อนซันเสียของจีน ดำเนินงานไปได้เร็วมาก และทำได้ดีมาก โครงการใหญ่ขนาดนี้ สิ่งที่สำคัญจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีภายหลังการก่อสร้างเสร็จสิ้นลงแล้ว จึงจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่

ด้วยน้ำพระทัยอันเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา และปรารถนาดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ มิตรสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทยพัฒนาไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว ทางด้านการเมืองแบบทวิภาคี ผู้นำทั้งสองประเทศได้มีการไปมาหาสู่กันอย่างต่อเนื่อง การติดต่อค้าขายระหว่างสองประเทศก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน พุทธศักราช 2548 ยอดการค้าระหว่างสองประเทศล้ำเกิน 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ นอกจากนี้ ในด้านการลงทุนระหว่างกัน ณ ปลายปี พุทธศักราช 2548 รัฐบาลจีนได้อนุมัติการลงทุนจากประเทศไทยกว่า 3,000 รายการ เงินลงทุนปรากฏในสัญญามีกว่า 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ทางฝ่ายจีนก็ไปลงทุนในประเทศไทยรวมประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วัฒนธรรม สาธารณสุข การศึกษา การกีฬา กระบวนการยุติธรรม และการทหารระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนก็เพิ่มมากขึ้น เรื่อย ๆ