สวัสดีค่ะท่านผู้ฟัง ช่วงนี้ที่ปักกิ่งเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของเด็ก ๆ ค่ะ แล้วก็เป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวของคนจีนด้วยนะคะ ดิฉันนั่งรถผ่านร้านที่ขายตั๋วรถไฟ เห็นมีคนเข้าคิวรอซื้อตั๋วรถไฟกันยาวเหยียดเลยค่ะ บ้างก็เป็นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยที่นัดแนะกันไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ หลังจากที่คร่ำเคร่งอ่านหนังสือกันมาทั้งเทอม บ้างก็เป็นนักเรียนที่มาจากต่างจังหวัดที่จะกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ช่วงปิดเทอม หรือไม่ก็เป็นพ่อแม่ชาวปักกิ่งเองที่ตั้งใจจะพาลูก ๆ ที่หยุดเทอมไปเที่ยว เรียกว่า ช่วงนี้ถือเป็นช่วงพักผ่อนของชาวจีนอีกช่วงหนึ่งนะคะ นอกจากช่วงวันหยุดยาว ๆ อย่างตรุษจีน วันแรงงาน และวันชาติแล้ว
ส่วนนักเรียนต่างชาติที่มาเรียนที่นี่ ทั้งคนไทย คนญี่ปุ่น คนเกาหลี คนอินโด ฯ หรือคนชาติอื่น ๆ ก็ไม่ต่างกันค่ะ บ้างก็กลับประเทศ บ้างก็ออกเที่ยวเมืองอื่น ๆ ในประเทศจีน เพื่อนคนไทยของดิฉันที่นี่ ก็กลับบ้านไปแล้วหลายคนค่ะ บางคนก็กลับถาวรเพราะเรียนจบแล้ว ส่วนบางคนก็จะกลับมาตอนใกล้ ๆ จะเปิดเทอม ช่วงต้นเดือนกันยายนค่ะ แต่มีน้องที่รู้จักคนหนึ่งค่ะ ที่ไม่ได้กลับเมืองไทย ใช้เวลาว่างมาฝึกงานอยู่กับซีอาร์ไอภาคภาษาไทยของเรา วันนี้ดิฉันก็เลยถือโอกาสชวนน้องเข้าห้องอัดเสียงด้วยกันซะเลย
เธออยู่ข้าง ๆ ดิฉันแล้วค่ะ สวัสดีค่ะน้องสุ
คุณสุภาพิศ: "สวัสดีค่ะ"
ฟังเสียงคุ้น ๆ ไหมคะคุณผู้ฟัง จริง ๆ แล้วน้องสุเคยมาให้สัมภาษณ์ในรายการเราตั้งแต่ช่วงต้น ๆ ปีแนะค่ะ ถ้าท่านผู้ฟังจำได้ ตอนที่เราคุยกันเกี่ยวกับการสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนหรือ HSK ไงคะ ถ้าจำไม่ได้ ดิฉันขอแนะนำน้องสุนิดหน่อยก่อนละกันค่ะ น้องสุ ชื่อเต็มว่า สุภาพิศ โชติธรรมวัฒนา ขอเรียกสั้น ๆ ว่าสุละกันนะคะ สุมาเรียนระดับปริญญาโทสาขาภาษาจีนใช่ไหมคะ
คุณสุภาพิศ: "ใช่ค่ะ"
มาได้ปีกว่าแล้ว ใช่ไหมคะ เป็นยังไงบ้างคะ คุ้นเคยกับชีวิตความเป็นอยู่ที่นี่หรือยังคะ
คุณสุภาพิศ: "ปรับตัวได้ตั้งแต่ช่วงเดือนสองเดือนแรกแล้วค่ะ"
มีอะไรที่ประทับใจเป็นพิเศษกับการอยู่ที่ปักกิ่งนี้คะ
คุณสุภาพิศ: "ประทับใจป้ายรถเมล์ที่นี่ค่ะ เพราะว่านอกจากที่ป้ายจะบอกสายรถที่ผ่านแล้ว ยังมีชื่อสถานที่ที่รถสายนั้นผ่านทุกป้ายด้วย แล้วก็ยังบอกเวลารถเที่ยวแรกกับเที่ยวสุดท้ายไว้เสร็จสรรพ เพราะฉะนั้นเวลาไปไหนมาไหนก็จะสะดวกมากค่ะ ไม่ต้องกลัวหลง หรือกลัวตกรถเที่ยวสุดท้าย"
แล้วเรื่องเรียนละคะ คิดว่า ระบบการเรียนการสอนของที่นี่ เทียบกับบ้านเราแล้วมีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไรบ้างคะ
คุณสุภาพิศ: "การเรียนการสอนในห้องเรียนก็ไม่ต่างจากบ้านเรามากค่ะ อาจารย์ยังเป็นผู้ป้อนความรู้ให้นักศึกษาเป็นหลัก แต่ที่ต่างกับบ้านเราน่าจะเป็นที่ตัวนักศึกษาค่ะ เพื่อนๆ นักศึกษาชาวจีนแทบทุกคนขยันและตั้งใจเรียนมาก ๆ น่าเอาเป็นแบบอย่างค่ะ"
ที่นี่น่าจะเรียนหนักกว่าที่เมืองไทยนะคะ ไหน ๆ ตอนนี้ก็ปิดเทอมแล้ว เราเปลี่ยนจากคุยเรื่องเรียน มาคุยเรื่องเที่ยวกันดีกว่าค่ะ
คุณสุภาพิศ: "ดีค่ะ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ"
คุณสุเคยไปเที่ยวไหนมาบ้างแล้วคะ
คุณสุภาพิศ: "ที่เคยไปก็มีเทียนสิน มองโกลเลียใน ต้าเหลียน ซานซี ล่าสุดก็เพิ่งไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนด่านซานไห่กวนมาค่ะ ด่านซานไห่กวนนี่เป็นด่านแรกของกำแพงเมืองจีนอยู่ติดทะเล สวยมากค่ะ"
แล้วในปักกิ่งละคะ เคยไปไหนมาบ้าง มีที่ไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษไหมคะ
คุณสุภาพิศ: "ประทับใจตอนที่ไปเที่ยวงานวัดช่วงตรุษจีนที่วัดตงเยว่เมี่ยวค่ะ วัดนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านปักกิ่งด้วย วันที่ไปอากาศหนาวมาก หนาวจนเท้าชาเลยค่ะ แต่ว่าผู้คนที่ไปเที่ยวก็ดูมีความสุขกันดี บรรยากาศคล้าย ๆ งานวัดบ้านเรา มีเกมส์การละเล่นต่าง ๆ ปาเป้า ยิงปืน หนูไต่จักร มีการแสดงพื้นบ้าน มีขนมของว่างตำรับปักกิ่งแท้ ๆ ให้ชิมด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าอากาศจะไม่เป็นใจนัก แต่ก็รู้สึกสนุกมากค่ะ"
แต่ช่วงนี้ดีหน่อยนะคะ เป็นหน้าร้อน คนจีนทุกเพศทุกวัยมักจะออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งกัน เพราะที่นี่จะหนาวนาน ไม่ค่อยได้มีโอกาสออกมารับอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกเท่าไหร่
คุณสุภาพิศ: "ใช่ค่ะ ตอนนี้ ตามสวนสาธารณะ หรือแม้แต่ตามฟุตบาทสองข้างทาง ก็มีคนออกมาเล่นไพ่ เล่นหมากรุก หมากล้อม เล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือไม่ก็เล่นว่าวก็มีค่ะ"
ถ้าเป็นช่วงเย็น ๆ หน่อย ตามสวนหย่อมในหมู่บ้าน หรือสวนสาธารณะ ชาวจีนก็จะนิยมออกมาเต้นรำกันกลางแจ้ง อุปกรณ์ก็มีแค่วิทยุและเครื่องเสียงเท่านั้นเอง แล้วก็เปิดเพลงเต้นกันสนุกเพลินทีเดียว ใครจะร่วมเต้นด้วยก็ได้ คุณสุเคยลองหรือยังคะ
คุณสุภาพิศ: "ยังไม่เคยเลยค่ะ กลัวจะเข้าไปทำจังหวะเต้นเขาเสีย"
ดิฉันยังไม่เคยลองเหมือนกันค่ะ อายค่ะ กลัวเต้นไม่สวยเท่าพวกอาอี้ อากู๋ อากง อาม่า ตอนมาใหม่ ๆ ดิฉันเคยไปนั่งสังเกตการณ์อยู่พักหนึ่งค่ะ แต่ละคน วาดลีลางดงามไม่น้อยทีเดียวค่ะ มีทั้งเต้นระบำแบบพื้นบ้านของชนชาติส่วนน้อย แล้วก็เต้นลีลาศ จังหวะวอล์ท ชัด ๆ ช่า หรือว่าแทงโก้ก็มีค่ะ
คุณสุภาพิศ: "นอกจากเต้นรำแล้ว บางกลุ่มก็ชอบร้องเพลงค่ะ มีคนเล่นเครื่องดนตรี อย่างผีผา หรือว่าขลุ่ย แล้วก็มีนักร้อง นั่งร้องอยู่ข้าง ๆ ใครนึกสนุก ก็ร่วมประสานเสียงไปด้วย ใครที่ร้องไม่เป็น ก็นั่งฟังอย่างสุนทรีย์ พร้อมกับชมนกชมไม้ไปด้วย คุณผู้ฟังนึกภาพออกนะคะ ว่าบรรยากาศสดชื่นสดใสขนาดไหน"
มีกู่เจิงด้วยไหมคะ
คุณสุภาพิศ: "อาจจะค่ะ"
นอกจากร้องเพลงเต้นรำแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกค่ะ คนที่เลี้ยงนก โดยเฉพาะนกเขา ก็จะถือกรงนก ที่มีนกอยู่ข้างในแล้วก็มีผ้าคลุมปิดไว้ ออกมาแขวนที่สวนสาธารณะ แล้วก็ผิวปาก พูดคุยกับนกอย่างสนุกสนาน
คุณสุภาพิศ: "นอกจากนกแล้ว ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวปักกิ่ง ก็คือหมาค่ะ พันธุ์ยอดนิยมที่สุด ก็คือหมาพันธุ์ปักกิ่ง ที่ตัวเตี้ย ๆ ยาวเล็กน้อย ตากลม ๆ แล้วก็ขนยาวลงมาปิดหูปิดขานิดหน่อย เวลาเดินก็จะต้วมเตี้ยม น่ารักมากค่ะ ช่วงหน้าร้อนนี้ เพื่อนที่ดีที่สุดของคนเหล่านี้ ก็ได้ออกมาวิ่งเล่นบ่อยขึ้นด้วยค่ะ"
ไม่ใช่แต่คน ที่จะมีความสุขกับการใช้ชีวิตหน้าร้อนที่นี่นะคะ หมาเอง ก็พลอยมีความสุขไปด้วย แต่เอ...ดิฉันก็เห็นหมามีความสุขทุก ๆ ฤดูอยู่แล้วค่ะ ไม่เคยเห็นหมาร้องไห้ซะที บางทีตอนเบื่อ ๆ ดิฉันคิดอยากจะเรียนแบบพวกมันบ้างเหมือนกันค่ะ วัน ๆ ไม่ต้องทำงาน มีคนพาออกมาเดินเล่น แล้วก็หาที่เหมาะ ๆ ขับถ่าย ถึงเวลาอาหาร ก็มีคนเอาข้าวมาให้กิน น่าอิจฉานะคะ
คุณสุภาพิศ: "อ้าว...คุณอรพิน เป็นไงมาไงไปนึกอิจฉาหมาละคะ เป็นคนก็ดีอยู่แล้วค่ะ มีโอกาสศึกษาพัฒนาไปถึงขั้นอรหันต์ได้"
ไปกันใหญ่แล้วนะคะท่านผู้ฟัง เราสองคนขอไปรวบรวมสติใหม่ แล้วกับมาเล่าเรื่องกิจกรรมฤดูร้อนของคนจีนที่ปักกิ่งกันต่อดีกว่าค่ะ สักครู่เดียวค่ะ
คุณสุคะ เพื่อน ๆ คนจีนของคุณสุ ชอบทำอะไรกันในช่วงหน้าร้อนนี้คะ
คุณสุภาพิศ: "ส่วนใหญ่จะออกมาออกกำลังกายหรือเล่นกีฬากลางแจ้งกันมากขึ้นค่ะ ที่เห็นฮิต ๆ กันอย่างหนึ่งก็คือเขาจะล้อมวงเดาะลูกขนไก่กันค่ะ ลูกขนไก่นี่จะมีฐานที่ทำจากโลหะถ่วงไว้ด้านล่าง เขาจะล้อมวงแล้วเดาะลูกขนไก่ไม่ให้ตกพื้น อารมณ์เดียวกับตะกร้อวงที่สวนลุมบ้านเรา แต่ที่นี่ผู้ชายผู้หญิงเดาะกันเก่งทุกคนนะคะ"
นอกจากนั้น กีฬาที่นิยมกันมากในหน้านี้อีกอย่าง ก็คือว่ายน้ำค่ะ ถ้าเราไปว่ายน้ำตามสระกัน ก็จะเห็นคนแน่นเต็มไปหมดเลยค่ะ เพราะเป็นการคลายร้อนได้ดีทีเดียวนะคะ
คุณสุภาพิศ: "พูดถึงว่ายน้ำที่นี่ มีเรื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเล่าออกอากาศได้หรือเปล่านะคะ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติละกันค่ะ อย่าคิดลึกนะคะคุณผู้ฟัง"
เรื่องห้องน้ำใช่ไหมคะ
คุณสุภาพิศ: "ใช่ค่ะ เรื่องนี้คนไทยเราต้องไม่ชินแน่ ๆ ค่ะ เพราะถ้าเราไปที่สระว่ายน้ำ ห้องน้ำจะแยกเป็นชาย-หญิง ปกติ แต่ในห้องน้ำซิคะ ไม่มีห้องเปลี่ยนเสื้อหรือห้องอาบน้ำที่ปิดประตูมิดชิดค่ะ เข้าไปในห้องน้ำแล้ว เขาก็จะมีกุญแจล๊อกเกอร์ให้ เอากระเป๋าใส่ไปในล๊อกเกอร์ แล้วก็ถอดเปลี่ยนชุดกันตรงนั้น ไม่ต้องมีผ้าขนหนูหรือโสร่งไว้ผลัดผ้า ใครที่อยู่ในห้องน้ำ แล้วพยายามใช้ผ้าเช็ดตัวช่วยตอนเปลี่ยนเสื้อ คงจะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดนะคะ"
เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตามค่ะ ตอนอาบน้ำก็เหมือนกัน เป็นห้องอาบน้ำรวม มีฝักบัวให้คนละอัน ต่างคนก็ต่างยืนอาบที่ฝักบัวของตัวเองในห้องเดียวกัน บางแห่งดีหน่อย ก็จะมีห้องอาบน้ำ แต่ก็ไม่มีประตูล๊อกอยู่ดี อาบเสร็จก็ต้องเดินล่อนจ้อนออกมาเปลี่ยนชุดที่ล๊อกเกอร์ เขินดีนะคะ ดิฉันเลยไม่ชวนเพื่อนผู้หญิงไปว่ายน้ำด้วยกันเลย เพราะต้องเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำเดียวกัน ยังทำใจไม่ค่อยได้ค่ะ
คุณสุภาพิศ: "ขนาดเพื่อนผู้ชายไทย ก็ยังเขินเหมือนกันค่ะ เวลาที่ต้องไปว่ายน้ำกับคนรู้จัก"
เรียกว่า เป็นความแตกต่างทางวัฒนธรรมอีกอย่างหนึ่งนะคะ ที่อเมริกา ก็เปลี่ยนเสื้อกันแบบนี้เหมือนกันค่ะ
คุณสุภาพิศ: "ญี่ปุ่นก็น่าจะเหมือนกันค่ะ ก็มีคนไทยนี่แหละนะคะ ที่รักนวลสงวนตัวมากหน่อย"
ก็เป็นสิ่งที่ดีงามนะคะ ขอให้สาว ๆ ไทยคงเอกลักษณ์นี้ไว้ตลอดไปนะคะ
คุณสุภาพิศ: "คุณอรพินค่ะ เราเล่าเรื่องผลไม้หน้าร้อนของที่นี่บ้างดีกว่าคะ"
ดีค่ะ เวลาใกล้หมดแล้ว ปิดท้ายด้วยเรื่องของกินกันนะคะ
คุณสุภาพิศ: "ช่วงนี้ ที่นี่แตงโม ถูกมากค่ะ คนจีนชอบซื้อไว้กินเพื่อดับร้อนกัน"
นอกจากนั้น หน้านี้ ลูกท้อลูกโต ๆ ราคาถูก ๆ ก็มีขายเกลื่อนไปหมดนะคะ เรียกว่า หันไปทางไหน ก็จะได้เห็นทั้งลูกท้อ และแตงโมลูกโต
คุณสุภาพิศ: "แล้วที่ขาดไม่ได้ก็คือไอศครีมค่ะ ที่นี่มีไอศครีมให้เลือกรับประทานหลายรสหลายชาติ ทั้งไอศครีมนอกและใน มีให้เลือกกินไม่เบื่อตลอดหน้าร้อนนี้เลยค่ะ"
นอกจากไอศครีมที่เป็นของยอดนิยมของทุกเพศทุกวัยแล้ว ยังมีขนมหวานอื่น ๆ เช่น เฉาก๊วย น้ำถั่วเขียว น้ำแข็งใสใส่ถั่วแดงหรือผลไม้นานาชนิด หรือไม่ก็ข้าวต้มเย็นใส่ผลไม้ชนิดต่าง ๆ คล้าย ๆ ที่เมืองไทยเรามีข้าวแช่อะไรแบบนั้นนะคะ แต่รูปแบบและรสชาติไม่เหมือนกันค่ะ
คุณสุภาพิศ: "พูดเรื่องของกินที่นี่ มีเยอะจนนับไม่ถ้วนเลยนะคะ สมแล้วที่ชาวจีนให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ มาเมืองจีนหน้าไหน ก็มีของกินหลากหลายให้ลิ้มรสได้ไม่ซ้ำทีเดียวค่ะ"
งั้นวันนี้ เราสองคนไปหาของกินดับร้อนกันดีกว่าค่ะ ดิฉันเอาเฉาก๊วยละกันค่ะ กินแก้ร้อนในดี
คุณสุภาพิศ: "ส่วนดิฉันชอบทุกอย่างเลยค่ะ ต้องคอยระวังไม่ให้สนุกกับการกินมากเกินไป ไม่งั้นอาจจะต้องมานั่งทรมานลดน้ำหนักก่อนเปิดเทอมไปเจอเพื่อน ๆ และคุณครูอีกที"
แนะนำให้กินไปด้วย ว่ายน้ำไปด้วย ดีไหมคะ วันนี้ลาแล้วค่ะคุณผู้ฟัง อรพิน เศรษฐภาคย์และ
คุณสุภาพิศ: "สุภาพิศ โชติธรรมวัฒนา สวัสดีค่ะ"
สวัสดีค่ะ
|