China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2006-09-19 14:33:59    
สวีเสียเค่อ (Xu Xiake ค.ศ.1568-1641) นักเดินทางและนักธรณีวิทยาสมัยราชวงศ์หมิง

cri

รายการวันนี้ ดิฉันขอเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับสวีเสียเค่อ (Xu Xiake ค.ศ.1568-1641) นักเดินทางและนักธรณีวิทยาสมัยราชวงศ์หมิง เจ้าของผลงานเขียนเรื่อง "บันทึกการเดินทางของสวีเสียเค่อ" ที่มีชื่อเสียงให้ท่านฟังค่ะ

สวีเสียเค่อเกิดที่ครอบครัวขุนนางที่มีฐานะตกต่ำลงครอบครัวหนึ่งในเมืองเจียงอินมณฑลเจียงซูภาคตะวันออกของจีนเมื่อคริสต์ศักราชปี 1586 บรรพบุรุษของเขาเคยเป็นขุนนางมาหลายชั่วอายุคน แต่เขากลับไม่ยินดีต่อหนทางที่ไปสู่วงการราชการเนื่องจากคิดว่านั่นเป็นชีวิตที่ไร้รสชาติและห่อเหี่ยว ฉะนั้นเขาจึงทอดสายตาไปยังธรรมชาติ ความจริงส่วนหนึ่งก็เพราะว่า เขาได้รับอิทธิพลจากบิดาของเขา บิดาของเขารักและยกย่องธรรมชาติ ไม่ชอบชีวิตขุนนาง และมักจะพาลูกๆ ไปเที่ยวสถานที่ที่มีชื่อเสียงต่างๆ สวีเสียเค่อจึงคุ้นเคยกับการท่องเที่ยวตั้งแต่วัยเด็ก นอกจากนี้ เขาก็ยังชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ หนังสือประเภทแผนที่ ภูมิศาสตร์และบันทึกประจำถิ่น เป็นต้น ส่วนมารดาของเขาก็เป็นผู้ที่เข้าใจชีวิตและเข้าใจโลก จึงมักสนับสนุนลูกชายให้ออกไปท่องเที่ยวทั่วสารทิศอยู่เสมอๆ

สวีเสียเค่อเริ่มออกเดินทางตั้งแต่อายุ 22 ปีจวบจนกระทั่งถึงลมหายใจสุดท้ายเมื่ออายุ 56 ปี เขาทิ้งรอยเท้าไว้ใน 19 มณฑล (ในปัจจุบัน) หรือ เกือบค่อนราชอาณาจักร การเดินทางเพียงลำพังของเขาเป็นการผจญภัยที่ยากลำบาก ระหว่างทาง เขาจะต้องปีนเขาลุยน้ำ หลายครั้งที่เขาเคยตกอยู่ในภาวะไม่เหลือเงินแม้สตางค์เดียวและท้องร้องไส้กิ่ว และอีกหลายคราวที่เขาแทบจะเอาชีวิตไม่รอด อย่างไรก็ตาม ความทุกข์ยากเหล่านี้ไม่อาจสั่นคลอนปณิธานและศรัทธาของสวีเสียเค่อได้ คำพูดติดปากของเขาก็คือ "ผมแบกหามเครื่องมือที่ใช้ในการขุดดินอยู่ตลอดเวลา แหล่งหนใดจะไม่มีที่สำหรับการฝังกระดูกของผมล่ะครับ"

ระหว่างการเดินทางนั้น สวีเสียเค่อติดนิสัยอย่างหนึ่ง คือ ออกเดินทางในกลางวันและเขียนบันทึกประจำวันในกลางคืน โดยจะบันทึกสิ่งที่ได้พบได้เห็นได้ฟัง ข้อมูลและผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับธรรมชาติอย่างละเอียดถี่ถ้วน เช่น ครั้งหนึ่งเขาเดินทางถึงมณฑลหูหนาน มีการร่ำลือกันในท้องถิ่นว่า มียักษ์อยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ใครๆ ก็ไม่กล้าเข้าไปในถ้ำดังกล่าว แต่สวีเสียเค่อกลับสมัครใจที่จะเข้าไปดูที่ถ้ำว่าในนั้นมีอะไรกันแน่ แล้วเขาก็พบว่า แท้จริงภายในถ้ำนั้นเป็นหินย้อยต่างๆ ที่กลับหัวห้อยลงมาทั้งสิ้น ซึ่งมีความสวยงามพิเศษกว่าที่อื่นใด เมื่อเขาเดินออกจากถ้ำโดยสวัสดิภาพแล้ว เหล่าชาวบ้านที่เฝ้ารอคอยอยู่ปากถ้ำต่างก็นับถือเขามาก สวีเสียเค่อได้นำสิ่งมหัศจรรย์ที่ได้พบเห็นในถ้ำดังกล่าวบันทึกลงไว้ในบันทึกประจำวันอย่างละเอียด

หลังจากที่สวีเสียเค่อเสียชีวิตไปแล้ว เพื่อนสนิทของเขาได้นำบันทึกประจำวันของเขาไปจัดพิมพ์รวมเล่ม โดยให้ชื่อหนังสือว่า "บันทึกการเดินทางของสวีเสียเค่อ" ความยาวกว่า 4 แสนตัวอักษร ลีลาการเขียนละมุนละไม เนื้อหาครอบคลุมถึงเรื่องของดินฟ้าอากาศ สายพันธุ์ของสัตว์และพืชพร้อมถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืช ภาวะทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นต้น เป็นข้อมูลที่ควรค่าแก่การศึกษาในด้านอุตุนิยมวิทยาและภูมิศาสตร์ เป็นต้น อาทิ บันทึกเกี่ยวกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นคาร์สต์หรือเขตผาหินปูนน้ำกัดกร่อนนั้นมีความละเอียดที่สุดและแม่นยำที่สุดในจีน นายโฮเซฟ นีดแฮม (Joseph Needham) ชาวอังกฤษผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียกย่อง "บันทึกการเดินทางของสวีเสียเค่อ" ว่า "บันทึกการท่องเที่ยวของสวีเสียเค่อ อ่านแล้วไม่เหมือนงานเขียนของนักวิชาการในศตวรรษที่ 17 กลับเสมือนบันทึกการสำรวจกลางท้องทุ่งในศตรรรษที่ 20"

ในช่วงกว่า 300 ปีที่ผ่านมานี้ สวีเสียเค่อได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลเชิงเทพนิยาย และได้รับการเคารพนับถือจากผู้คนทั้งหลาย โดยมีการสร้าง "หอระลึกสวีเสียเค่อ" ขึ้นที่เมืองเจียงอินมณฑลเจียงซูซึ่งเป็นถิ่นเกิดของสวีเสียเค่อ อันประกอบด้วยบ้านเก่าและสุสานของสวีเสียเค่อซึ่งล้วนเป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิง และมีการจัด "เทศกาลท่องเที่ยวสวีเสียเค่อ" ขึ้นที่เมืองหนิงไห่มณฑลเจ้อเจียงซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นใน "บันทึกการเดินทางของสวีเสียเค่อ" " ซึ่งจัดมาแล้ว 4 ครั้ง

ท่านผู้ฟังคะ เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับสวีเสียเค่อ (Xu Xiake) นักเดินทางและนักธรณีวิทยาสมัยราชวงศ์หมิง เจ้าของผลงานเขียนเรื่อง "บันทึกการเดินทางสวีเสียเค่อ" ที่มีชื่อเสียงก็ขอเล่าสู่กันฟังเพียงเท่านี้ ดิฉันพิศศรี ห่อเพชรพลอย สวัสดีค่ะ