ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคมถึง?วันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะมาถึงนี้ ที่เมืองหนานหนิง เมืองเอกเขตปกครองตนเอง?ชนชาติจ้วงกวางสีของจีน จะจัดการประชุมสุดยอด?เพื่อรำลึกการสร้างความสัมพันธ์แบบคู่เจรจา?ระหว่างจีนกับอาเซียนครบรอบ 15 ปี พร้อมกับจัดงานมหกรรมจีน-อาเซี่ยนครั้งที่ ๓ และการประชุมสุดยอดว่าด้วยการค้าและการลงทุน?ระหว่างจีนกับอาเซี่ยนครั้งที่ 3 ตามลำดับ

ในช่วง 6 วันข้างหน้า ซี.อาร์.ไอ.ภาคภาษาไทยจะจัดรายการพิเศษทั้งหมด 6 ครั้ง?เพื่อติดตามรายงานผลคืบหน้า?ของกิจกรรมเหล่านี้ทุึกวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอเชิญติดตามรับฟังรายการของเราได้เลยครับ

ส่วนเว็บไซต์ของเรา?ก็ได้เิปิดคอลัมน์พิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้โดย เฉพาะ ขอเชิญท่านผู้ฟังที่สนใจเรื่องนี้ท่องเว็บไซต์ของเราได้เลยนะครับ

ท่านผู้ฟังครับ ปี 2006 นี้?นับเป็นปีครบรอบ 15 ปีของการสร้างความสัมพันธ์?แบบคู่เจรจาระหว่างจีนกับอาเซี่ยน และปีแห่งความร่วมมือฉันมิตร?ระหว่างจีนกับอาเซี่ยน วันที่ 30 ตุลาคมนี้ การประชุมสุดยอดเพื่อรำลึกการสร้างความสัมพันธ์แบบคู่เจรจา?ระหว่างจีนกับอาเซียนครบรอบ 15 ปี จะจัดขึ้นที่เมืองหนานหนิง นับเป็นครั้งแรกที่เปิดการประชุมผู้นำประเทศจีน?และ 10 ประเทศอาเซียนในจีน นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน?และผู้นำประเทศอาเซี่ยนทั้งหมด 10 ประเทศ เช่น พล.อ.สุรยุทธ์ จุนลานนท์ นายกรัฐมนตรีไทยและนางกลอเรีย อาโลโย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เป็นต้น จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ บรรดาผู้นำจะสรุปประสบการณ์?และกระบวนการพัฒนาความสัมพันธ์?ที่เป็นมิตร ระหว่างจีนกับอาเซียน วางแผนอานาคตทิศทางการพัฒนาของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย ซึ่งมีความหมายทางประวัติศาสตร์?การพัฒนาความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์?เพื่อสันติภาพและความเจริญก้าวหน้า และกระชับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ?ระหว่างจีนกับอาเซี่ยนอย่างมาก ภายหลังการประชุม บรรดาผู้นำจะลงนาม?ในแถลงการณ์ร่วม?ว่าด้วยการประชุมฯครั้งนี้ด้วย ซึ่งนับเป็นแถลงการณ์ร่วมระหว่างจีนกับอาเซี่ยนฉบัีบที่สอง?และเป็นผลสำเร็จที่สำคัญมากนะครับ

ท่านผู้ฟังครับ ในช่วงปีหลัง ๆ นี้ จีนและประเทศอาเซี่ยนถือว่าได้เพิ่มความใกล้ชิดกันอย่างมาก ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือที่ดีมากไม่ว่าด้่านการเมือง เศรษฐกิจการค้า วัฒนธรรมตลอดจนด้านอื่น ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณลู่ หย่งเจียง ผู้สื่อข่าวซี.อาร์.ไอ.ประจำกรุงเทพฯได้ไปสัมภาษณ์?นายนพปดล คุณวิบูลย์ อธิบดีกรมอาเซี่ยน กระทรวงการต่างประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านความสัมพันธ์?ระหว่างจีนกับอาเซี่ยนของไทย ท่านได้สรุปการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซี่ยนในช่วงปีหลัง ๆ นี้ว่า (เสียงสัมภาษณ์ของนายนพปดล คุณวิบูลย์)

"ความสัมพันธ์ที่อาเซียนและจีนมีมา 15 ปี นับว่าเป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์ที่อาเซียนอยากจะมีกับประเทศคู่เจรจา เป็นตัวอย่างที่ดีนะครับ เพราะว่า ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับจีนมีครอบคลุมในทุกๆด้านนะครับ ไม่้เพียงเฉพาะด้านการเมือง เศรษฐกิจและความมั่นคงเท่านั้น แต่ก็รวมถึงสังคมและวัฒนธรรมด้วยครับ ซึ่งก็เป็นความร่วมมือที่มีมาช้านานครับ ประชาชนไทยและประชาชนประเทศสมาชิกอาเซียนกับประชาชนจีน ก็เปรียบเสมือนญาติพี่น้องกัน เรามีความใกล้ชิดกันมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ แล้วเราก็ได้มีความร่วมมือขยายไปถึง 10 สาขาด้วยซ้ำไป คือในด้านการเกษตร สารสนเทศ การสื่อสาร การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลงทุน ในด้านพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง ในด้านการขนส่งคมนาคม พลังงาน วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และในด้านสาธารณสุขนะครับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซี่ยนและจีนมีความลึกซึ้งนะครับ แล้วก็ครอบคลุมทุกๆด้าน ที่สำคัญก็คือ ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา อาเซียนกับจีนก็ได้ร่วมกันฝ่าฟันวิกฤติและเผชิญหน้าปัญหาต่่างๆร่วมกันอย่างมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 1997 จีนก็ได้มีบทบาทในการช่วยเหลือประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ในช่วงมีการแพร่ระบาดของโรคซาร์สและไข้หวัดนก อาเซียนก็ได้ร่วมมือกับจีนในการแก้ปัญหา ทำให้ประชาคมโลกมีความมั่นใจ ทำให้ลดความรุนแรงของผลกระทบที่มาจากโรคซาร์สและโรคไข้หวัดนกนะครับ หรือว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็มีเรื่องภัยธรรมชาติ เช่นสึนามิ ก็ทำความเสียหายให้แก่อินโดนีเซียและไทยอย่างมาก จีนก็ได้เป็นประเทศแรกๆที่ได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยนะครับ ซึ่งผมก็รู้สึกว่า จีนเป็นมิตรแท้ หรือก็เรียกว่า มหามิตรของอาเซียนก็ว่าได้ ในช่วงปีหลังๆนี้ที่ผ่านมา อาเซียนและจีนก็ได้มีความร่วมมือที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นหุ้นส่วน ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ทำให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติสุข เสถียรภาพและความมั่งคั่งในภูมิภาค ผมจึงอยากจะกล่าวในอีกอันหนึ่งว่า ความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างอาเซียนกับจีน ไม่ได้เพียงอยู่ในระดับของความร่วมมือในโครงการต่างๆเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้ยกระดับสูงขึ้น เป็นระดับที่เรียกว่าความร่วมมือหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ก็ว่าได้ เพราะอาเซียนและจีนก็เป็นกลุ่มที่มีความสำุคัญในการส่งเสริมเสถียรภาพ และความอยู่ดีกินดีของภูมิภาคเอเชียตะวันออกโดยรวม แล้วก็ผมอยากจะฝากไว้นิดหนึ่งว่า แม้ว่าเมื่อเร็วๆนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย แต่ก็อยากจะพูดว่า รัฐบาลใหม่ของไทยเองก็ยังมีนโยบาย มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับจีน เหมือนอย่างรัฐบาลชุดที่ผ่านๆมา ฉะนั้น ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็จะไปร่วมการประชุมสุดยอดสมัยพิเศษครั้งนี้ โดยที่เราจะมีข้อเสนอต่างๆ เพื่อสนับสนุนความร่วมมือแล้วก็การประชาความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับจีนต่อไปด้วยครับ"

ต่อจากการประชุมสุดยอด?เพื่อรำลึกการสร้างความสัมพันธ์แบบคู่เจรจา?ระหว่างจีนกับอาเซียนครบรอบ 15 ปี เช้าวันที่ 31 ตุลาคมนี้ บรรดาผู้นำจะเข้าร่วม?พิธีเปิดงานมหกรรมจีน——อาเซี่ยนครั้งที่ ๓ แหล่งข่าวแจ้งว่า มีตัวแทนบริษัทจาก 2000 บริษัท?และนักธุจกิจจำนวนประมาณ 60000 คนที่มาจากจีนและ 10 ประเทศอาเซี่ยนจะเข้าร่วมงานมหกรรมครั้งนี้

งานมหกรรมจีน-อาเซี่ยนครั้งนี้?จะจัดที่ศูนย์ประชุม?และแสดงนิทรรศการ?ระหว่างประเทศหนานหนิงเหมือนเดิม ทั้งหมดมี 3500 บู๊ธ มีประเด็นหัวข้อทั้งหมด 4 ข้อ ได้แก่ การค้าสินค้า การลงทุน เทคโนโลยีทันสมัย?และเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ สำหรับเมืองไทย จะมีบริษัทจากทั่วประเทศทั้งหมด 53 บริษัทเข้าร่วมงานมหกรรมครั้งนี้ ธุรกิจที่เข้าร่วมงานครั้งนี้?มีธุรกิจด้านอาหาร ผลิตผลเกษตร เครื่องจักร รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ความร่วมมือทางการศึกษา ความร่วมมือทางการแพทย์เป็นต้น

นอกจากนั้น ประเทศจีน เจ้าภาพงานมหรรมครั้งนี้ ยังจะจัดกิจกรรมแนะนำ?บรรยากาศการลงทุนของไทยโดยเฉพาะในตอนบ่ายวันที่ 31 ตุลาคมนี้ด้วย นับเป็นการเปิดโอกาสพิเศษ?ในด้านการดึงดูดการลงทุนจากประเทศเืพื่อนบ้านให้กับไทย

ท่านผู้ฟังครับ พูดถึงกิจกรรมเมืองแห่งมนต์เสน่ห์นะครับ ถ้าท่านเคยติดตามฟังรายการเกี่ยวกับงานมหกรรมจีน?อาเซี่ยนครั้งที่ 2 คงจะยังจำได้ว่า ปีที่แล้่วเมืองแห่งมนต์เสน่ห์?ที่มาโปรโมชั่นของไทยคือเมืองเชียงใหม่ ปีนี้เปลี่ยนโอกาส?ให้กับเมืองขอนแก่นแล้วครับ คาดว่าภายหลังงานมหกรรมจีน?อาเซี่ยนครั้บนี้เสร็จสิ้นลง นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปเที่ยวขอนแก่น คงจะเพิ่มมากขึ้นไม่รู้กี่เท่า สำหรับกิจกรรมเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ครั้งนี้ ผมจะรายงานรายละเอียดในรายการพิเศษครั้งที่ 5 นะครับ ท่านผู้ฟังอย่าลืมติดตามฟังนะครับ

ระหว่างงานมหกรรมจีน?อาเซี่ยน ยังจะจัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยการค้า?และการลงทุนระหว่างจีนกับอาเซี่ยนครั้งที่ ๓ ซึ่งมีหัวเรื่องว่า"ความต้องการร่วมกัน อนาคตร่วมกัน" ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกัน โดยวงการการค้าของทั้งสองฝ่าย เช่น หอการค้าไทย คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนไทยเป็นต้น จะมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการค้าเข้าร่วม เพื่ออภิปรายเรื่อง?ส่งเสริมการลงทุนข้ามชาติ นับว่าเป็นโอกาสที่ดี?ในการส่งเสริมการลงทุนระหว่างจีนกับประเทศอาเซี่ยนนะครับ

แม้จะเคยเป็นเจ้าภาพ?จัดงานมหกรรมจีน-อาเซี่ยน?ติดต่อกันสองครั้งแล้วก็ตาม แต่ชาวเมืองหนานหนิงก็ได้ให้ความสำคัญและความกระตือรือร้น?ในการเตรียมงานมหกรรมครั้งนี้อย่างมากเช่นเดิม พวกเขาได้ใช้มาตรการใหม่ ๆ หลายอย่าง?เพื่อจัดงานมหกรรมครั้งนี้ให้ดี ผู้สื่อข่าวซี.อาร์.ไอ.ได้สัมภาษณ์?นายหลัว ต้ากวาง รองเลขาธิการเทศบาลเมืองหนานหนิง เขากล่าวว่า

"เราได้ดำเนินโครงการก่อสร้างหลายโครงการ เช่นติดตั้งไฟฟ้าข้างถนนเพิ่ม ปลูกต้นไม้เพิ่ม ตัดถนนใหม่ สร้างสะพานใหม่ เป็นต้น ไ้ด้ใช้จ่ายงบประมาณไปทั้งหมด? 16000 ล้านหยวน นอกจากนี้ ยังได้เปิดสายการบินตรง?จากเมืองสำคัญ ๆ ของประเทศอาเซี่ยน เช่นกรุงย่างกุ้ง กรุงจาการ์ตา กรุงฮานอย เป็นต้น เพื่อให้แขกต่างชาติ?มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น"

ขณะนี้ เมืองหนานหนิงนับว่าเตรียมพร้อมแล้วทุกอย่าง กำลังรอคอย?มิตรจากประเทศอาเซี่ยน?มาชุมนุมกันด้วยความเร่าร้อน

ท่านผู้ฟังครับ รายการพิเศษเกี่ยวกับงานมหกรรมจีน-อาเซี่ยนครั้งที่ ๓ ของวันนี้?ก็ขอจบลงเพียงแค่นี้ พบกันในรายการครั้งต่อไป จางตาน ผู้สื่อขา่วซี.อาร์.ไอ.รายงานจากเมืองหนานหนิงครับ สวัสดีครับ