ปีนี้เป็นปีที่จีนกับอาเซี่ยนสร้างความสัมพันธ์แบบหารือกันครบรอบ 15 ปี ก่อนหน้านี้ ผู้นําจีนกับ 10 ประเทศอาเซี่ยนได้ชุมนุมกันที่เมืองหนานหนิงเมืองเอกของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสี เพื่อวางแผนหลักนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาในอนาคต ทั้งสองฝ่ายต่างตกลงกันว่าจะสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซี่ยนให้สําเร็จภายในปี 2010 ตามที่กําหนดไว้

ปลายเดือนตุลาคม นางกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศประธานหมุนเวียนของอาเซี่ยนกล่าวในการประชุมสุดยอดรําลึกจีนกับอาเซี่ยนสร้างความสัมพันธ์แบบหารือกันครบรอบ 15 ปีว่า อาเซี่ยนกับจีนจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายให้ลงลึกยิ่งขึ้นโดยผ่านการสร้างเขตการค้าเสรี"การค้าระหว่างเรากับจีนได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราก็หวังว่าจีนจะเพิ่มการลงทุนในอาเซี่ยน จีนได้ทะยานขึ้นมาในเวทีโลก อาเซี่ยนก็พลอยโดดเด่นไปพร้อมกับจีน และได้นําซึ่งการปฏิรูปที่ลึกซึ้ง ผู้นําประเทศต่างๆยินดีมากต่อการเสริมการติดต่อระหว่างจีนกับอาเซี่ยนโดยผ่านการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซี่ยน"

เดือนพฤศจิกายน 2002 การประชุมสุดยอด"10+1"จีน-อาเซี่ยนที่จัดขึ้นในกรุงพนมเปญเมืองหลวงของกัมพูชาได้ตกลงว่าจะสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซี่ยนอย่างเป็นทางการ เขตการค้าเสรีจีน-อาเซี่ยนจะครอบคลุมทั้ง 11 ประเทศเช่นจีน ไทย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย และเวียดนามเป็นต้น ประชากรในพื้นที่มีประมาณ 1,800 ล้านคน ยอดมูลค่าการผลิตภายในประเทศสูงถึง 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

เมืองตงซิงของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีตั้งอยู่ที่ชายแดนจีนกับเวียดนาม เป็นเมืองท่าการค้าสําคัญของจีนกับเวียดนาม นายเหอ เหวินผิง นักธุรกิจชาวเวียดนามได้มาทําธุรกิจที่นี่เป็นเวลา 10 ปีแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขากําลังสํารวจตลาดเฟอร์นิเจอร์ของจีน เขาวางแผนว่าจะจําหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้่แดงที่ผลิตในเวียดนามไปที่จีน เขากล่าวว่า

"ผมจะร่วมมือกับชาวจีนทําธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้แดง หุ้นส่วนชาวจีนจะช่วยผมจําหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้แดงของเวียดนามไปที่จีน ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ดี นอกจากนี้ ผมยังคิดว่าจะไปเปิดโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้่แดงในจีนด้วย"

ในเมืองตงซิงมีนักธุรกิจเหมือนนายเหอ เหวินผิงอยู่มากมาย ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนปีนี้ จํานวนคนที่เข้าออกเมืองโดยผ่านเมืองท่าตงซิงมีมากกว่า 2 ล้านคน ยอดมูลค่าที่นําเข้าและส่งออกมีประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

งานเอ๊กซโปจีน-อาเซี่ยนที่จัดขึ้นปีละครั้งเป็นเวทีสําคัญในการส่งเสริมการลงทุนระหว่างจีนกับอาเซี่ยน ในงานเอ๊กซโปจีน-อาเซี่ยนปีนี้ ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า ประเทศต่างๆของอาเซี่ยนล้วนได้ให้สิทธิพิเศษ เพื่อดึงดูดวิสาหกิจจีนไปลงทุน อย่างเช่น จังหวัดส่วนหนึ่งของเวียดนามจะไม่เก็บค่าเช่าที่ดินกับวิสาหกิจที่มีเงินทุนจีน ให้เงินอุดหนุนสําหรับการเวนคืนที่ดิน และลดภาษีบางส่วนด้วย มาเลเซียไม่เก็บภาษีต่อวิสาหกิจจีนที่ลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักรเป็นต้น

นางดูโยอันห์(Duyoanh)เจ้าหน้าที่บริหารศูนย์ส่งเสริมการลงทุนและการค้าเมืองโฮ ชิ มินห์(Ho Chi Minh)ของเวียดนามให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า

"เราได้จัดศูนย์ส่งเสริมการลงทุนและการค้าโดยเฉพาะ เพื่อให้บริการด้านต่างๆให้กับวิสาหกิจที่มาลงทุน เช่นสนองข้อมูล และนโยบายเป็นต้น ด้านการศึกษาและการให้บริการแบบครบวงจรทางธุรกิจก็ล้วนเป็นปริมณฑลการลงทุนที่เรายินดีต้อนรับอย่างมาก"

ปรากฎการณ์ต่างๆแสดงให้เห็นว่า ในขณะที่การค้าและการลงทุนระหว่างจีนกับอาเซี่ยนนับวันคึกคักมากขึ้น ความร่วมมือในด้านการเงิน โลจิสติก และการจัดนิรรศการก็นับวันใกล้ชิดยิ่งขึ้น ระยะหลังๆนี้ ผู้นําชั้นสูงของธนาคารเพื่อพัฒนาแห่งชาติจีนกับธนาคารเพื่อพัฒนาเวียดนามได้จัดการเจรจา วางแผนการดําเนินความร่วมมือในด้านการเงิน กระทรวงพาณิชย์ไทย สถานกงสุลเวียดนาม พม่าและประเทศอาเซี่่ยนอื่นๆกับศูนย์จัดนิรรศการระหว่างประเทศคุนหมิงของมณฑลยูนนานได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ เตรียมว่าจะสร้างห้องจัดนิรรศการที่มีพื้นที่หลายพันตารางเมตร

นายโป๋ ซีไหล รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีนที่เข้าร่วมงานเอ๊กซโปจีน-อาเซี่ยนปีนี้กล่าวว่า จีนมีความมั่นใจต่ออนาคตความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับอาเซี่ยน

"ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับประเทศอาเซี่ยนในช่วงหลายปีมานี้กล่าวได้ว่ามีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว อัตราเติบโตในทุกปีก็สูงมาก อัตราเติบโตในปีนี้อาจจะสูงกว่า 20% การนําเข้าและการส่งออกต่างก็พัฒนาอย่างดี ถึงปี 2010 ยอดปริมาณการค้าระหว่างจีนกับประเทศอาเซี่ยนคงจะมีถึง 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ"