ปี 2006 การเกษตรของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีได้ใช้เอ๊กซโปจีน-อาเซี่ยนครั้งที่สามซึ่งเป็นเวทีระหว่างประเทศอันสําคัญ พยายามพัฒนากิจการที่เกี่ยวข้อง รักษาแนวโน้มการพัฒนาที่ดีของกิจการที่ได้เปรียบต่างๆเช่นการเลี้ยงไหม การเพาะเห็ด ยาสมุนไพรจีน และมันสําปะหลังเป็นต้นให้ขยายตัวกว้างขวางยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรรายใหญ่ต่างๆเช่นอ้อยนํ้าตาล รังไหม เห็ด และลิ้นจี่เป็นต้นล้วนมีราคาสูงขึ้น
เดือนพฤศจิกายนปี 2006 ในงานเอ๊กซโปจีน-อาเซี่ยนครั้งที่สามที่จัดขึ้นที่เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีกับประเทศต่างๆของอาเซี่ยนเช่นไทย มาเลเซีย อินโดนีเซียและสิงคโปร์เป็นต้นได้ลงนามในโครงการความร่วมมือด้านการเกษตรที่มีมูลค่าประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
บุคคลวงการเกษตรมีความเห็นโดยทั่วไปว่า เมื่อการเกษตรของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีพัฒนาอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีด้านการเกษตรก็นับวันสมบูรณ์ยิ่งขึ้น คุณภาพของผลิตผลการเกษตรได้ยกระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซี่ยนก็เร่งตัวเร็วขึ้น ความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างสองฝ่ายย่อมต้องมีอนาคตที่ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีเป็นมณฑลเกษตรกรรมสําคัญของจีน มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ มีความได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์ การพัฒนาการเกษตรมีอนาคตกว้างขวาง ปีหลังๆนี้ เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีได้ปรับปรุงโครงสร้างการเกษตรให้ดียิ่งขึ้น เร่งฝีก้าวความร่วมมือด้านการเกษตรกับอาเซี่ยน ยกระดับคุณภาพและกําลังแข่งขันของผลิตผลเพื่อขยายปริมณฑลความร่วมมือด้านการเกษตรกับอาเซี่ยนได้มากยิ่งขึ้น
นายจาง หมินเผย อธิบดีกรมเกษตรของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า หลายปีก่อน เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีกับหน่วยงานด้านการเกษตรของเวียดนามและลาวได้ลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการเกษตรแบบทวิภาคี ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ร่วมมือกันแบบหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ด้านการเกษตรกับฟิลิปปินส์ ได้เข้าร่วมการวางแผนและพัฒนาโครงการการเกษตรที่เกี่ยวข้องในประเทศอาเซี่ยนต่างๆเช่นเวียดนาม กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย และได้เผยแพร่เทคโนโลยีการใช้สารมีเธน เทคโนโลยีการเลี้ยงไหม เทคโนโลยีใหม่เกี่ยวกับการปลูกผักและผลไม้ต่างๆ ปัจจุบัน ข้าวนาดําผสมของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีมีการเพาะปลูกในพื้นที่จํานวนมากของเวียดนาม
ความร่วมมือระหว่างเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีกับอาเซี่ยนในการใช้ทุนต่างชาติเริ่มต้นมาเป็นเวลานานแล้ว อย่างเช่นบริษัทนํ้าตาลของไทยเริ่มร่วมมือกับเมืองฉองโจ่วของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีเมื่อหลายปีก่อน ได้สร้างกลุ่มนํ้าตาลเอเซียตะวันออกขึ้น
แน่นอนอยู่แล้ว การจัดงานเอ๊กซโปจีน-อาเซี่ยนและการพัฒนาของกระบวนการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซี่ยนอย่างต่อเนื่องนั้น ย่อมจะนํามาซึ่งโอกาสให้กับการเกษตรจของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีแล้ว แต่ก็ได้นําการท้าทายมาด้วย
บุคคลที่เกี่ยวข้องเห็นว่า บทบาทและผลกระทบของงานเอ๊กซโปมีลักษณะเป็นแบบรวมๆและทุกด้าน แม้จะมีบทบาทส่งเสริมมากมายต่อการเกษตรในท้องถิ่นก็ตาม แต่ก็ต้องเตรียมใจให้ดีว่า บทบาทส่งเสริมเหล่านี้นอกจากจะไม่สามารถมีผลออกมาทันที หากยังมีความเป็นไปได้ที่จะถูกกระทบค่อนข้างมากต่อกิจการบางอย่าง อย่างเช่นผลไม้เขตโซนร้อน ผลไม้ของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้กับผลไม้ของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีมีความคล้ายคลึงกันมาก และการเกษตรของประเทศอาเซี่ยนเช่นไทย บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ได้เปรียบกว่าเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีในบางด้าน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ถ้าการเกษตรของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสียังอยากจะอยู่ในแนวหน้าของอาเซี่ยน อยากจะมีบทบาทเป็นสะพานอย่างแท้จริง ก็จําเป็นต้องมองการณ์ไกล มีแนวคิดที่กล้าบุกเบิก มีทัศนะที่เปิดกว้าง เพราะว่า ใครปรับโครงสร้างได้ดีที่สุด เร็วที่สุด ได้เปรียบที่สุด ก็จะมีฐานะเหนือกว่าในการพัฒนาในอนาคต
|