บ่ายวันที่ 9 มกราคมนี้ นายอาเบะ ชินโซะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเดินทางไปเยือนอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันและเบลเยี่ยม 4 ประเทศยุโรป นอกจากจะเจรจากับผู้นำทั้งสี่ประเทศนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีอาเบะยังจะจัดการเจรจากับนายโจเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรป และกล่าวคำปราศรัยในคณะ มนตรีแอตแลนติกเหนือซึ่งเป็นองค์กรอำนาจสูงสุดของนาโต้อีกด้วย

สื่อมวลชนเห็นว่า การที่นายกรัฐมนตรีอาเบะเลือกยุโรปเป็นสถานที่ไปเยือนครั้งแรกในปี 2007 มีความประสงค์หลายประการ

หนึ่ง เพื่อเสริมความร่วมมือกับนาโต้และแสดงบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นในกิจการความมั่นคงทั่วโลก สื่อมวลชนญี่ปุ่นรายงานว่า จุดประสงค์ของคำปราศรัยในคณะมนตรีแอตแลนติกเหนือของนายกรัฐมนตรีอาเบะนั้นก็เพื่อให้ 26 ประเทศสมาชิกนาโต้รับทราบว่า ญี่ปุ่นอยากจะมีความร่วมมือกับนาโต้ในด้านปฏิบัติการผดุงสันติภาพ การบูรณะฟื้นฟูหลังสงครามและการกู้ภัย วันที่นายกรัฐมนตรีอาเบะไปเยือนยุโรปเป็นวันที่กรมป้องกันประเทศญี่ปุ่นได้รับการยกระดับขึ้นเป็นกระทรวงการป้องกันประเทศญี่ปุ่น ต่อไปกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นจะเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ให้การสนับสนุนแนวหลังกับกองทัพสหรัฐฯโดยพิจารณาถึงกฏหมายว่าด้วยสถานการณ์รอบข้าง และยกระดับจากภารกิจเสริมเป็นภารกิจพื้นฐาน มีบางคนในรัฐบาลญี่ปุ่นหวังว่า ภายใต้ความช่วยเหลือจากนาโต้ กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นจะสามารถขยายการปฏิบัติการนอกประเทศได้มากขึ้น

สอง เพื่อเป็นแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือ ในช่วงระหว่างการเยือนอังกฤษ นายกรัฐมนตรีอาเบะจะจัดการเจรจากับนายโทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และจะย้ำความกังวลที่มีต่อเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธและทำการทดลองนิวเคลียร์ และเร่งรัดให้เกาหลีเหนือแก้ปัญหาลักพาตัวชาวญี่ปุ่นโดยเร็วที่สุด ในการเจรจากับนายบาร์โรโซ ประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรป นายกรัฐมนตรีอาเบะจะเรียกร้องให้สหภาพยุโรปปฏิบัติตามข้อตกลงหมายเลข 1718 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ

สาม ใช้ความพยายามเพื่อให้ญี่ปุ่นเข้าเป็นประเทศสมาชิกถาวรแห่งสหประชาชาติ หลังจากนายอาเบะ ชินโซะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นต้นมา ได้เจรจากับผู้นำจีน สหรัฐฯและรัสเซียในสถานที่ต่าง ๆ กัน การพบปะกับผู้นำอังกฤษและฝรั่งเศสครั้งนี้ก็เพื่อมีการพบปะกับผู้นำ 5 ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ญี่ปุ่นเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นผลดีต่อ 5 ประเทศสมาชิกถาวรดังกล่าวเพื่อให้เข้าใจความพยายามของญี่ปุ่นที่อยากเป็นประเทศสมาชิกถาวรแห่งสหประชาชาติ เพื่อตรึงกำลังของจีนและรัสเซียในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ

สี่ ให้ความสำคัญกับอนาคตระหว่างญี่ปุ่นกับยุโรป ในช่วงระหว่างการเยือนอังกฤษ นายกรัฐมนตรีอาเบะจะพบปะกับนายโกร์ดัน โบรนผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีพรรคเลเบอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและนายแดวิด คาเมรัน ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมอังกฤษ ช่วงระหว่างการเยือนฝรั่งเศส เขาจะพบปะกับนายเซโกลาเน โรยัล ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีพรรคสังคมซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดและนายนิโกลาส ซาร์โคจี รัฐมนตรีว่าการกระกระทรวงกิจการภายในประเทศ ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรครัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีอาเบะกำลังคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับอังกฤษและฝรั่งเศสในอนาคต

สุดท้าย การเยือนครั้งนี้เน้นความคิดทางการทูตอย่างรอบด้านของญี่ปุ่น ในอดีต หลังจากนายกรัฐมนตรีคนใหม่เข้าดำรงตำแหน่ง ก็ไปเยือนสหรัฐฯก่อนยุโรป แม้ว่ากระทรวงการต่างประเทศอธิบายว่า ในการประชุมเอเปคที่เสร็จสิ้นลงในกลางเดือนพฤศจิกายนปี 2006 นายกรัฐมนตรีอาเบะได้เจรจากับนายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯแล้ว แต่บุคคลส่วนใหญ่เห็นว่า นายกรัฐมนตรีอาเบะจะถือการเยือนยุโรปแสดงให้เห็นว่านโยบายทางการทูตของเขาแตกต่างกับนโยบายของนายจุนอิชิโร โคะอิซุมิ