ระหว่างวันที่ 13-16 มกราคมที่ผ่านมานี้ นายเวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนได้ไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซี่ยนกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ (10+3) ครั้งที่ 10 การประชุมผู้นำอาเซี่ยนกับจีน (10+1) และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกครั้งที่ 2 ที่เมืองเชบูของฟิลิปปินส์ ได้อำนวยการประชุมผู้นำจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ครั้งที่ 7 อีกทั้งได้ดำเนินการเยือนฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการอีกด้วย กล่าวได้ว่าเป็นกิจกรรมทางการทูตในประเทศรอบข้างที่มีความสำคัญยิ่งครั้งหนึ่งในช่วงต้นปีใหม่ นายหลี่เจ้าซิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ผู้ซึ่งติดตามไปเยือนด้วยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การเดินทางไปฟิลิปปินส์ของนายกรัฐมนตรีจีนในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จมากมาย

นายหลี่เจ้าซิงกล่าวว่า ในที่ประชุมต่างๆ ของระดับผู้นำเอเชียตะวันออกครั้งนี้ นายเวินเจียเป่าได้ชี้แจงนโยบายของจีนเกี่ยวกับความร่วมมือเอเชียตะวันออก เขากล่าวเน้นว่า ความร่วมมือเอเชียตะวันออกควรเป็นความร่วมมือที่มุ่งสร้างการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองด้วยกันในส่วนภูมิภาค ส่งเสริมให้ประเทศต่างๆ อยู่ด้วยกันอย่างสมานฉันท์และเคารพระบบสังคมและความหลากหลายทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ ความร่วมมือเอเชียตะวันออกยังควรยืนหยัดในการเปิดเสรี ต้อนรับประเทศและองค์การต่างๆ ที่อยู่นอกส่วนภูมิภาคให้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ส่วนในที่ประชุม 10+1 นั้น นายกรัฐมนตรีเวินเจียเป่าได้เสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามความเข้าใจร่วมกันที่ทำขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอดจีน-อาเซี่ยนที่เมืองหนานหนิงเมื่อปีที่แล้วให้ถึงที่สุดและกระชับความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การลงนามใน "ข้อตกลงว่าด้วยการค้าบริการในเขตการค้าเสรีจีน-อาเซี่ยน" นับเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า กระบวนการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซี่ยนได้ย่างก้าวสำคัญไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง

นายหลี่เจ้าซิงกล่าวว่า เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นและความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นได้ปรับปรุงดีขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ การประชุมระดับผู้นำจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ก็ได้รื้อฟื้นขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เคยหยุดชะงักไปเป็นเวลากว่าหนึ่งปี เรื่องนี้ก็ได้รับความสนใจจากประชาคมโลก นายเวินเจียเป่ากล่าวในที่ประชุมดังกล่าวว่า จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ล้วนเป็นประเทศสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ล้วนแบกรับภาระหน้าที่ทางประวัติศาสตร์และมีส่วนรับผิดชอบสำคัญในการผดุงสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชีย ในการส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคเอเชีย ทัศนะของนายกรัฐมนตรีเวินเจียเป่านี้ได้รับการตอบรับจากผู้นำของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ หลังการประชุม สามฝ่ายได้ประกาศ "แถลงข่าวร่วม" เป็นครั้งแรก เป็นการบ่งบอกว่า ทั้งสามฝ่ายได้ทำข้อตกลงหลายประการ

ต่อจากการเข้าร่วมการประชุมต่างๆ ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว นายเวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนก็ได้ดำเนินการเยือนต่อฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ ระหว่างที่เขาพบปะเจรจากับนางกลอเรีย อาร์โรโย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์นั้น ทั้งสองฝ่ายได้มีความเข้าใจร่วมกันมากขึ้นเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ให้ลงลึกยิ่งขึ้น อีกทั้งได้ลงนามในเอกสารว่าด้วยความร่วมมือต่างๆ รวม 12 ฉบับด้วย

นายหลี่เจ้าซิงกล่าวสรุปว่า การเดินทางของนายกรัฐมนตรีเวินเจียเป่าในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ว่า จีนยืนหยัดเดินหนทางการพัฒนาที่สันติ ยืนหยัดนโยบายการทูตที่เป็นมิตรกับประเทศรอบข้างและเป็นหุ้นส่วนกับประเทศรอบข้าง การเดินทางในครั้งนี้ได้เพิ่มพูนความเชื่อถือซึ่งกันและกัน ได้กระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และมีความหมายสำคัญต่อการสร้างบรรยากาศรอบข้างที่สันติ เป็นมิตรและมีความร่วมมือ