China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2007-03-27 19:35:46    
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นขอภัยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับปัญหาหญิงบำเรอจากเเรงกดดันของสื่อมวลชน

cri

เมื่อวันที่ 26 มีนาคมนี้ ในการตอบข้อซักถามของสมาชิกวุฒิสภาในการประชุมเกี่ยวกับงบประมาณ นายอาเบะ ชินโซ นายกรัฐมนตรีญี่ปุนได้ขออภัยเกี่ยวกับปัญหาหญิงบำเรออย่างเป็นทางการในฐานะที่เป็น นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

สื่อมวลชนญี่ปุ่นรายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้ ที่นางโยชิกาวะ ฮารุโกะ สมาชิกวุฒิสภาพรรคคอมมิวนิสต์ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลญี่ปุ่น เกี่ยวกับการขออภัย "หญิงบำเรอ"ซึ่งนายอาเบะ ซินโซกกล่าวว่า เขาขออภัยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว เเละรัฐบาลคง ยังคง ยืนยันท่าทีใน"การปราศรัยโคโน โยเฮอิ"ต่อไป เเละขอเเสดงความเห็นใจ พร้อมทั้งขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นับเเต่ปี 1993 เป็นต้นมา นายโคโน โยเฮอิ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวคำปราศรัย หลังได้รับผลการขอประชามติเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว โดยยอมรับว่ากองทัพญี่ปุ่นเคยเข้าร่วมการ จัดตั้ง "สถานบำเรอ"ในคาบสมุทรเกาหลี เเละจีนเป็นต้น เเละบังคับให้สตรีเอเชียทำหน้าที่เป็น "หญิงบำเรอประจำกองทัพ" ดังนั้นจึงขอโทษเเละจะทบทวนตัวเองด้วยซ้ำ คำปราศรัยดังกล่าวมีชื่อว่า "การปราศรัยโคโน โยเฮอิ" เมื่อเร็วๆนี้ มีสมาชิกวุฒิสภาญี่ปุ่นบางคนตั้งใจจะปฏิเสธ เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ เเละจะตรวจสอบปัญหานี้อีกครั้ง โดยนายอาเบะ ชินโซเเสดงการสนับสนุนในประเด็นนี้เเม้ว่าเขา เคยเเสดงว่าจะปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของ"การปราศรัยโคโน โยเฮอิ"ของปี 1993ก็ตามเขาเคยกล่าวว่า ไม่มีหลักฐานใดๆสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลเเละกองทัพญี่ปุ่นเคยระดมหาหญิงบำเรอ ซึ่งท่าทีดังกล่าวของนายอาเบะ ชินโซทำให้ประชาคมโลกไม่พอใจอย่างยิ่ง ปัจจุบัน สภาผู้เเทนราษฏรของสหรัฐอเมริกากำลังพิจารณามติเกี่ยวกับการเรียกร้องให้ ญี่ปุ่นขออภัยเกี่ยวกับปัญหาหญิงบำเรอที่ประจำกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงคราม โลกครั้งที่ 2 ด้วย

ก่อนหน้านี้ สำนักงานสภาพเเวดล้อมเอเชียเเปซิิฟิคของคณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในสภาผู้เเทนราษฏรสหรัฐอเมริกาเคยเชิญผู้ที่ถูกบังคับเป็น "หญิงบำเรอ" ประจำกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองโดยมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็๋นเกี่ยวกับหญิงเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์ พวกเธอเล่าถึงประสบการณ์เกี่ยวกับการถูกข่มเหงเเละถูกเหยียดหยามจากทหารญี่ปุ่น เเละหวังว่าสหรัฐอเมริกาจะสามารถเร่งให้ญี่ปุ่นขอ อภัยอย่างเป็นทางการ รัฐสภาของสหรัฐอเมริกาเคยมีมติเกี่ยวกับปัญหาหญิงบำเรอหลายครั้ง เเต่หลังจากพรรคเดโมเครต์มีอำนาจ ทำให้เกิดการเปลี่ยเปลงไป เเต่นับวันสื่อมวลชนในสหรัฐอเมริกาก็ยิ่งให้ความสคำคัญกับปัญหานี้มากขึ้น บทความในสื่อมวลชนกล่าวเน้นว่า นักประวัติศาสตร์ให้ข้อมูลว่า ในปีนั้น มีสตรีเอเชียกว่า 2 เเสนคนถูกทหารญี่ีปุ่นใช้เป็นทาสอย่างทารุณ เเต่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่สนใจที่จะรับผิด ชอบเเละออกค่าชดเชยให้เเก่พวกเธอประกอบกับนายอาเบะ ซินโซไม่ให้ความสำคัญต่อปัญหาดังกล่าว ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเป็นความอัปยศอดสูในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำ ระดับชาติ

ไม่เพียงเเต่สื่อมวลชนต่างชาติเท่านั้น สื่อมวลชนภายในประเทศของญี่ปุ่นวิจารณ์เเละเขียนบทความประณามว่านายอาเบะมีพฤติกรรมที่ปฏิเสธประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ " โยมิอุริ"ลงพิมพ์บทความว่า การใช้ปัญหาหญิงบำเรอไปต่อสู้กับ สหรัฐอเมริกา มีเเต่ทำให้ "ผลประโยชน์ของประเทศชาติถูกทำลาย"

ในเสียงคัดค้านเเละการประท้วงที่ออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายอาเบะ ซินโซได้กล่าวคำปราศรัยที่สถานีโทรทัศน์ "เอ็นเอ็ชเค"ว่า เขาขออภัยต่อสตรีที่ถูกบังคับเป็นหญิงบำเรอเเละถูกทำร้ายจิตใจรวมทั้งประสบความทุกข์ทรมาณอย่างเเสน สาหัสในขณะนั้น นายมูรายามะ โตมิอิชิ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นให้ความเห็นว่า "การที่จะทำให้ปัญหานี้ดีขึ้นเป็นเรื่องที่สำคัญก็จริง เเต่เรื่องที่สำคัญกว่าคือ นายอาเบะต้องขอโทษด้วยความจริงใจ"