เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะทําข่าวร่วมทางโทรทัศน์และวิทยุครั้งใหญ่ในหัวข้อ"การเดินทางแห่งความร่วมมือจีน -อาเซียน"ไปสัมภาษณ์นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์รองนายกรัฐมนตรีไทยที่กรุงเทพฯ นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์กล่าวว่า ไทยยินดีร่วมมือกับประเทศอื่นๆของอาเซี่ยน เพิ่มความร่วมมือกับจีนให้มากยิ่งขึ้น

นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ ประเมินค่าการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีนไว้อย่างสูง เขากล่าวว่า

"ประเทศไทยเป็นประเทศที่กําลังพัฒนา เป็นประเทศส่วนหนึ่งของอาเซี่ยน เพราะฉะนั้น ในแง่ที่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศจีนเป็นเวลานานแล้ว เราก็ยากที่จะเห็นว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้แน่นแฟ้นขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้เราได้พูดกับประเทศอาเซี่ยนอยู่ตลอดเวลาว่า จีนเป็นเพื่อนเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่สําคัญของประเทศไทยและอาเซี่ยน ประเทศไทยมองว่าความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดดังนี้จะทําให้โครงสร้างเศรษฐกิจของอาเซี่ยนกับจีนนั้นมีความผูกพันกัน และต่างฝ่ายต่างก็จะเอื้อประโยชน์ให้แก่กันและกัน"

นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์กล่าวว่า ไทยกับจีนลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการค้าเสรีแล้ว ซึ่งทําให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไม่ว่าในด้านเศรษฐกิจการค้าหรือในด้านการท่องเที่ยวต่างก็มีการเสริมสร้างมากยิ่งขึ้น เขากล่าวว่า

"ประเทศจีนมีความสําคัญกับประเทศไทยเพิ่มขึ้นในทุกๆด้าน ไม่ว่าทางด้านการค้าและทางด้านการนําเข้าส่งออก ประเทศจีนก็มีสัดส่วนสูงขึ้นเรื่อยๆ และในด้านการท่องเที่ยว ประเทศจีนก็มีความสําคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ขณะนี้ก็เริ่มที่จะมีการลงทุนทั้งสองฝ่าย เดิมประเทศไทยเริ่มไปลงทุนในประเทศจีนเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ในขณะนี้เราเองก็อยากจะร่วมมือกับจีนเป็นการลงทุนสองฝ่าย"

นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลไทยให้ความสนใจในด้านส่งเสริมการค้าระหว่างจีนกับไทย ปัจจุบันการค้าระหว่างสองประเทศเป็นการค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แปรรูปในขั้นต้นเป็นหลัก ในเวลาต่อไปควรพิจารณาขยายปริมณฑลการค้าให้กว้างยิ่งขึ้น รัฐบาลไทยมีท่าทีเล็งผลเลิศเกี่ยวกับนักธุรกิจไทยไปลงทุนที่จีน และก็ยินดีต้อนรับนักธุรกิจจีนไปลงทุนในไทยเช่นกัน ซึ่งจะดําเนินมาตรการเปิดมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ความสะดวกแก่นักธุรกิจจีน

นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์เห็นว่า การที่ประเทศอาเซี่ยนกับจีนส่งเสริมการสร้างเขตการค้าเสรีจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในด้านต่างๆระหว่างสองฝ่าย สร้างคุณูปการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคตน

เขากล่าวว่า"ในการดําเนินการทางด้านการค้าการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในอย่างยิ่ง อาจจะเป็นการลงทุนด้วยก็ได้ ประเทศไทยเองก็มองเห็นว่าในเขตของเราที่เรียกว่าเขตของประเทศลุ่มแม่นํ้าโขง ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ประเทศไทยจะได้มีโอกาสทํางานร่วมกับประเทศจีนและเพื่อนๆบ้านของเราที่อยู่ในอินโดจีน"