วันที่ 18 กรกฎาคมนี้ งานสัมมนาเีกี่ยวกับโอกาสการลงทุนในประเทศไทยจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง งานสัมมนาครั้งนี้ร่วมจัดขึ้นโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเเห่งประเทศไทยหรือ BOI สมาคมการพัฒนาเเละวางเเผนการลงทุนของอุตสาหกรรมในต่างประเทศเเห่งประเทศจีน เเละคณะกรรมการการพัฒนาเเละปฏิรูปของกรุงปักกิ่ง
นายวิทยา ไพรสุวรรณ ที่ปรึกษาด้านการลงทุนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไำอ โดยได้กล่าวถึงสภาพการลงทุนระหว่างไทยกับจีน เเละไทยกับประเทศสมาชิกอาเซียน ต่อไปเรามาฟังคําให้สัมภาษณ์กันนะครับ
ผู้ืสื่อข่าว ?ท่านมีความปรารถนาอะไรในการมาเยือนครั้งนี้ในฐานะที่เป็นหัวหน้าคณะBOI
นายวิทยา ไพรสุวรรณ?ประการเเรก ประเทศไทยเราตระหนักถึงศักยภาพของจีน จีนมีเงินตราต่างประเทศสำรองสูงมาก ถึงล้านล้านยูเอสดอลลาร์ เเละจีนมีศักยภาพในการผลิตอุตสหกรรมสูงเช่นกัน จีนไ่ม่เพียงเป็นประเทศที่รับการลงทุนมหาศาล จีนเองยังมีขีดความสามารถในการลงทุนต่างประเทศจำนวนมากครับ เรารู้ดีเเล้วจีนได้ขยายการลงทุนไปทั่วโลก ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในอาเซียน เราก็อยากจะมาพบกับนักธุรกิจจีน เเละก็มาเเจ้งพวกเขาทราบว่า ขณะนี้นโยบายเศรษฐกิจ ภาวะการลงทุน บรรยากาศการลงทุนเป็นอย่างไร โอกาสลู่ทางการลงทุนเป็นอย่างไร ผู้ไปลงทุนในประเทศไทยจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง เพื่อให้นักธุรกิจประเทศจีนดูให้ชัดเจนว่าควรจะไปลงทุนที่ ประเทศไหน นั่นคือนโยบายของไทยเราได้สร้างกลไกเพื่อดึงดูดนัก ลงทุนจีนไปยังไทย
ผู้สื่อข่าว ?ในด้านนักธุรกิจที่เคยไปลงทุนที่ประเทศไทย พวกเขามีเสียงสะท้อนอะไรบ้างเกี่ยวกับสภาพการลงลทุนในประเทศไทยครับ
นายวิทยา ไพรสุวรรณ?ต่างชาติที่ไปลงทุนที่ประเทศไทยมากที่สุดคือญี่ปุ่น ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของยอดการลงทุนมาจากญี่ปุ่น นอกจากนั้นก็จะเป็นสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา เอเชียก็มีเกาหลีใต้ สิงคโปร์ เเละไต้หวันของจีนด้วย การลงทุนในเเต่ละปีเเยกเป็นสองส่วน เป็นการขยายการลงทุนที่มีอยู่เดิม ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นของยอดการลงทุนที่มีอยู่ การลงทุนใหม่ก็จะมี 30กว่าเปอร์เซ็น ซึ่งเเปลว่า ธุรกิจของพวกเขาได้กำไร ธุรกิจของพวกเขามีความก้าวหน้า เขามีความสะดวกใจ ในการทำธุรกิจในไทย ความมั่นใจของพวกเขาที่มีต่อประเทศไทยมีอยู่สูง
ผู้สื่อข่าว ?ในด้านการลงทุนระหว่างไทยกับอาเีซียน ไทยได้รับผลอะไรบ้าง
1 2
|