งานมหกรรมจีน-อาเซียนครั้งที่ 4 จะจัดขึ้นที่เมืองหนานหนิงเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีในวันที่ 28-31 ตุลาคมนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ สํานักงานบริหารกิจการวิทยุ ภาพยนตร์และโทรทัศน์กวางสีได้เชิญชวนผู้สื่อข่าวกว่า 100 คนของสถานีวิทยุซีอาร์ไอ สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ฟีนิกซ์ทีวี(phoenixtv) ตลอดจนสื่อมวลชนของประเทศอาเซียนมาทําข่าวที่กวางสี ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอได้สัมภาษณ์นายสุรศักดิ์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ของประเทศไทยที่เดินทางมาทําข่าวในเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสี

ผู้สื่อข่าว?คุณสุรศักดิ์เดินทางมาทําข่าวที่เขตกวางสีครั้งนี้มีวัตถุประสงค์อะไรบ้าง

คุณสุรศักดิ์?วัตถุประสงค์จริงๆแล้วคือทางจีนต้องการที่จะส่งเสริมเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงเศรษฐกิจระหว่างประเทศจีนกับประเทศในกลุ่มอาเซียน ทางจีนต้องการเปิดตัวเขตปกครองชนชาติจ้วงกวางสีให้ประเทศในกลุ่มอาเซียนรู้จักมากขึ้น เพราะว่ามีโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจว่าอ่าวเป่ยปู้ ซึ่งต้องการที่จะให้คนไทยหรือประเทศในกลุ่มอาเซียนรู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่เป็นนักลงทุนที่จะได้เข้ามาลงทุน เพราะว่าในเขตเศรษฐกิจตรงนี้มีจุดเชื่อมโยงระหว่างประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียนกับประเทศจีนได้ค่อนข้างสะดวก โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับท่าเรือต่างๆ รวมทั้งการคมนาคมขนส่งทางบก และเขตติดต่อทางชายแดน หรือว่าชายแดนเวียดนามทํานองนั้น ก็ต้องการที่จะให้นักลงทุนชาติต่างๆได้รู้จัก แล้วสามารถเข้าไปลงทุนได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย ในเขตนี้จะมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่หลายแห่งด้วยกัน ไทยจะรู้จักกุ้ยหลินเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างดี แล้วก็มีการเผยแพร่ภาพ เผยแพร่ให้เห็นกันเป็นประจํา

ผู้สื่อข่าว?ช่วงที่คุณสุรศักดิ์มาอยู่ในกวางสี เจ้าภาพได้พาไปทําข่าวที่ไหนมาบ้าง

คุณสุรศักดิ์?ไป 7-8 เมืองของกวางสี

ผู้สื่อข่าว?ตอนนี้ไปกี่เมืองแล้ว

คุณสุรศักดิ์?ตอนนี้ไปมา 6 เมืองแล้ว ใกล้จะสิ้นสุดภารกิจแล้ว เท่าที่ไปมาก็มีหนานหนิง ผิงเซียง ฉงโจ่ว หวงฉิงกาง ชิงโจว เป๋ยไห่ และยู่หลิน ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองที่มีความสําคัญในทางเศรษฐกิจ การลงทุน มีโรงงาน มีอุตสาหกรรม แล้วก็อ่าว มีท่าเรือ สามารถใช้ประโยชน์เกี่ยวกับการลงทุน การขนส่ง ตอนนี้ผมอยู่ที่ยู่หลิน เดินทางด้วยรถยนต์ แล้วย้ายจากยู่หลินไปที่เหลี่ยวโจว แล้วอีกที่หนึ่งคือกุ้ยหลินจะสิ้นสุดภารกิจตรงนั้น ก็จะเดินทางกลับประเทศไทย

ผู้สื่อข่าว?ประเด็นที่คุณสุรศักดิ์ให้ความสนใจมากที่สุดในการทําข่าวครั้งนี้มีอะไรบ้าง

คุณสุรศักดิ์?จริงๆแล้ว โดยทั่วไปที่คุยกันไว้ต้องการให้เรามาทําในเชิงเศรษฐกิจ ต้องการให้เราเผยแพร่ในเรื่องเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุนในจีน ให้คนไทยได้เข้าใจและรู้จัก ก็คงจะเป็นประเด็นเชิงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่นักลงทุนไทยสามารถเข้ามาเมืองจีนเข้ามาลงทุนได้ ตอนนี้เท่าที่เขาพาไปดูทุกที่ทุกแห่งที่เขาอยากพาเราไปดูในส่วนที่มีนักลงทุนของประเทศในอาเซียนเข้าไปลงทุนเป็นตัวอย่างให้เราได้รู้ อย่างของไทยเขาพามาที่บริษัทผลิตกระดาษอยู่ที่เมืองฉงโจ่ว จริงๆแล้วเมืองฉงโจ่วเดิมมีนักธุรกิจไทยเข้ามาลงทุนเปิดโรงงานนํ้าตาลอยู่ 5 แห่ง

ผู้สื่อข่าว?มีข้อมูลอะไรน่าสนใจที่เกี่ยวกับงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียนที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้หรือเปล่าครับ

คุณสุรศักดิ์?จริงๆแล้ว ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เขาต้องการพาบรรดาผู้สื่อข่าวครั้งนี้ไป เพราะว่าที่มางานเอ็กซโปจีน-อเซียนปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคมนี้ที่เมืองหนานหนิง มันน่าสนใจตรงที่ว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่เริ่มจัดครั้งแรกในปี 2004 ก็ประสบความสําเร็จมาโดยตลอด เมื่อปีที่แล้ว ท่านนายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์ก็ได้ไปร่วมงานด้วย การจัดงานแต่ละครั้งมีการประชุมระดับผู้บริหารระดับสูง ผู้นําประเทศมีโอกาสได้เห็นบรรยากาศต่างๆ เท่าที่ผมเห็นรายชื่อบริษัทไทยตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ประมาณ 10 บริษัท เขาก็ยังรับลงทะเบียนอยู่ เพราะฉะนั้นถ้ามีใครสนใจก็สามารถที่จะเข้าไปในเว็บไซด์ของเขาได้ ซึ่งเป็นเว็บไซด์ของหน่วยงาน แล้วสามารถลงทะเบียนได้ ซึ่งโดยทั่วไปเท่าที่ผ่านมา 3 ครั้ง ไทยจะมาแสดงสินค้าในเชิงที่เป็นสินค้าเกษตรเป็นหลัก เราค่อนข้างจะถนัดเรื่องนี้ สินค้าที่นําเข้ามาจีนของเราจะส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์เกษตร ก็คือบรรดาผลไม้ทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวจีนค่อนข้างมาก ผมคิดว่า อันนี้น่าจะเป็นตลาดที่น่าสนใจสําหรับนักธุรกิจไทย

ผู้สื่อข่าว?ขอทราบความเห็นของคุณสุรศักดิ์ว่า งานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียนมีความสําคัญมากน้อยแค่ไหนต่อการค้าส่งออกของประเทศไทย

คุณสุรศักดิ์?จริงๆ แล้ว กวางสีกับไทยยังไม่ได้มีตลาดการค้ากันมากมาย ส่วนใหญ่เราเข้ามาที่กวางตุ้งมากกว่า แม้ว่าจะมีการจัดงานเอ็กซโปจีน-อาเซียนหลายครั้งแล้วก็ตาม ไทยก็ยังไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากงานเอ็กซโปจีน-อาเซียนเท่าไรนัก คืออาจจะเพราะว่าคนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก เพราะว่าส่วนใหญ่ก็จะไปทางท่าเรือแถวกวางตุ้งมากกว่า เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่ามีนักลงทุนท่านใดสนใจ อยากเข้ามาลงตลาดจีน อันนี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง เพราะว่าทางนี้มีท่าเรือหลายแห่ง นอกจากทางทะเลแล้ว เขาก็ยังมีการขนส่งอื่นๆ หรือว่ามีช่องทางติดต่อกับอาเซียนในทางรถไฟด้วย โดยจะเชื่อมต่อไปที่เวียดนาม แล้วจากเวียดนามเข้าไทยก็ไม่ยาก น่าจะลองดู อาจจะสะดวกกว่ากวางตุ้ง

ผู้สื่อข่าว?ขอความเห็นจากคุณสุรศักดิ์ว่า งานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียนมีอะไรที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่เพื่อจะได้ทําให้งานนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการส่งเสริมการค้าระหว่างจีนกับอาเซียน

คุณสุรศักดิ์?คงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์เผยแพร่มากกว่า ถ้าหากว่ามีการประชาสัมพันธ์ให้นักธุรกิจนักลงทุนในประเทศต่างๆได้ทราบกันทั่วถึง งานก็จะคึกคักมากขึ้น จะมีคนไปแสดงสินค้าและไปร่วมงานมากขึ้น