การประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 17 กำหนดจะจัดให้มีขึ้นที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 15 เดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ สื่อมวลชนมีความเห็นโดยทั่วไปว่า การประชุมครั้งนี้จะส่งผลกระทบสำคัญต่อการพัฒนาทางการเมืองและเศรษฐกิจของจีน เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอประจำต่างประเทศได้สัมภาษณ์บุคคลทางการเมืองและนักวิชาการในหลายประเทศเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว

พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรครัฐบาลของจีน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตของไทยมีทัศนะเกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่า

"พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้บริหารประเทศมาเป็นระยะเวลายาวนานพอสมควรนะครับ สิ่งหนึ่งซึ่งผมคิดว่าเป็นความสำเร็จที่ชัดเจนก็คือ การปรับทิศทางของการพัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของโลก ระยะหลังเนี่ยจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจจีนประสบความสำเร็จมาก จนเป็นที่ยอมรับ เป็นที่กล่าวขานักนไปทัวโลก"

นายฟาซัล-อูร์-ราห์มัน ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษาของสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์ปากีสถานให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 17 ซึ่งจะเปิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ว่า

"ผมเห็นว่าการเปิดการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 17 เป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งจัดขึ้นในขณะที่เรามองเห็นจีนได้รับผลจากการพัฒนามากมาย การประชุมสมัชชาฯ ครั้งที่ 17 ย่อมจะกำหนดหลักนโยบายสำหรับโครงการพัฒนาของจีนในระยะ 5 ปีข้างหน้า"

ศ.กูสตาฟ กีราเออร์ส์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์และการเมืองของมหาวิทยาลัย VUB ของเบลเยียมกล่าวถึงการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 17 ว่า

"ผมเห็นว่าการประชุมสมัชชาฯ ครั้งที่ 17 มีความสำคัญมาก เพราะด้วยการประชุมดังกล่าว ผู้คนจะสามารถเห็นชัดถึงทิศทางการพัฒนาของจีนในอนาคตได้ง่ายยิ่งขึ้น เราต้องการเห็นว่า นายหู จิ่นเทา เลขาธิการพรรคฯ จะสามารถเสนอแผนการแก้ไขปัญหาในทุกปัญหาได้ ทั้งปัญหาความไม่เสมอภาคเท่าเทียมกันทางสังคม ปัญหาระบบนิเวศน์และการประกันสังคม เป็นต้น ซึ่งเป็นปัญหาที่จีนกำลังเผชิญอยู่"

เอคาร์ด วอน แคลเดน โฆษกกลุ่มสมาชิกรัฐสภาเยอรมันสังกัดสหพันธ์พรรค CDU และพรรค CSU ฝ่ายนโยบายการต่างประเทศมีความเห็นว่า

"ขณะที่เศรษฐกิจพัฒนาไปอย่างรวดเร็วนั้น จีนก็เผชิญกับปัญหาและการท้าทายนานัปการ อาทิ เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วและเร่าร้อนเกินไปซึ่งขัดแย้งกัน ความเหลื่อมล้ำระหว่างความยากจนกับความร่ำรวยมีมากขึ้น การท้าทายจากการว่างงาน จากการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สังคมมีผู้สูงอายุมากขึ้น และมีความจำเป็นจะต้องสร้างระบบประกันสังคมในทุกด้าน เป็นต้น"

อย่างไรก็ตาม ศ.กูสตาฟ กีราเออร์ส์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์และการเมืองของมหาวิทยาลัย VUB ของเบลเยียมเห็นว่า จีนกำลังหาหนทางพัฒนาที่มีความสมานฉันท์ เขากล่าวว่า

"ผมเชื่อว่า ผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในขณะนี้มีความปรารถนาดี มีเจตนาที่จะนำมาซึ่งความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งได้มาด้วยราคาแพงกับระบบทางสังคมที่ให้ความสำคัญแก่มนุษย์มากขึ้น"