เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมนี้ มีการเปิด "งานมหกรรมจีน-อาเซียนครั้งที่ 4" และ "การประชุมสุดยอดว่าด้วยธุรกิจและการลงทุน" ที่เมืองหนันหนิงเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน นายเจิง เผยเอี๋ยน รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวระหว่างไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ว่า เวลานี้ จีนกับอาเซียนได้สร้างความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ อยู่ในช่วงที่มีความสัมพันธ์ที่ดี คือ ให้ความเคารพซึ่งกันและกันในทางการเมือง มีการแลกเปลี่ยนกันทางวัฒนธรรมและเอื้อประโยชน์แก่กันทางเศรษฐกิจ ต่อแต่นี้ไป สองฝ่ายควรถือโอกาสนี้ขยายการลงทุนระหว่างกันและเพิ่มความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคให้ลงลึกต่อไป ส่วนผู้นำประเทศอาเซียนที่ไปร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ก็ปรารถนาที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นทุกด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม เป็นต้น

ประเทศหลักในงานมหกรรมจีน-อาเซียนครั้งนี้คือ บรูไน เจ้าชายอัล-มูห์ทาดี บิลลาห์ มกุฎราชกุมารแห่งบรูไนขณะทรงกล่าวพระดำรัสในพิธีเปิดงานฯ นั้น ก็ทรงชื่นชมผลประโยชน์ที่แท้จริงที่นำมาให้แก่ทั้งสองฝ่ายตั้งแต่มีการเปิดงานมหกรรมจีน-อาเซียนเป็นต้นมา

"งานมหกรรมจีน-อาเซียนในทุกวันนี้เป็นวันที่มีความสำคัญมากในปฏิทินอาเซียน ตั้งแต่เปิดเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2004 เป็นต้นมา งานนี้ก็ได้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ด้วยการเป็นเวทีแสดงสำหรับบริษัทที่ดีที่สุดของจีนและของเขตอาเซียน ขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองในการจัดงานสัมมนาทางวิชาการ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นสำหรับวิสาหกิจของเรา"

จีนกับอาเซียนเริ่มปฏิบัติตามข้อตกลงว่าด้วยการค้าบริการในเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และขณะนี้สองฝ่ายกำลังเดินหน้าการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงว่าด้วยการลงทุน ระหว่าง "การประชุมสุดยอดว่าด้วยธุรกิจและการลงทุนจีน-อาเซียน" เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมนี้ นายเจิง เผยเอี๋ยน รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวปาฐกถาสำคัญว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายควรทำความเข้าใจระหว่างกันให้มากขึ้นและเพิ่มการปรึกษาหารือกัน ส่งเสริมวิสาหกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมดำเนินความร่วมมือด้านการลงทุน

"อาเซียนเป็นแหล่งสำคัญสำหรับวิสาหกิจจีนใน "การก้าวไปสู่โลก" ฝ่ายจีนจะเพิ่มการลงทุนต่อประเทศอาเซียนให้มากขึ้น โดยจะสร้างเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าหลายแห่งขึ้นในประเทศอาเซียน ส่งเสริมวิสาหกิจของจีนไปขยายกิจการที่ประเทศอาเซียน"

เกี่ยวกับประเด็นหลักของ "การประชุมสุดยอดว่าด้วยธุรกิจและการลงทุนจีน-อาเซียนครั้งที่ 4" คือ "นวัตกรรมด้านความร่วมมือ------เร่งเพิ่มอัตราการเติบโตในส่วนภูมิภาค" นั้น นายเจิง เผยเอี๋ยน รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า

"สองฝ่ายควรหารือเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดำเนินความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเขตแพน-อ่าวเป่ยปู้ให้ลงลึกยิ่งขึ้น จัดตั้งกลไกการประสานงานภาครัฐและคณะผู้เชี่ยวชาญ ร่วมวิจัยและกำหนดแผนการร่วมมือ พัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ความร่วมมือในส่วนอนุภูมิภาคกลายเป็นสีสันใหม่ในความร่วมมือทางเศรษฐกิจจีน-อาเซียน"

ปาฐกถาของรองนายกรัฐมนตรีจีนดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากบรรดาผู้นำอาเซียนที่ไปร่วมงาน นายบัวสอน บุบผาวัน นายกรัฐมนตรีลาวกล่าวว่า ลาวปรารถนาที่จะขยายความร่วมมือกับจีนในทุกด้านต่อไป

"จากแง่ของลาวแล้ว ลาวมุ่งมั่นในการขยายความร่วมมือกับจีนต่อไป รวมถึงความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ระหว่างหน่วยงานของรัฐกับหน่วยงานเอกชน ระหว่างภาคเอกชนและความร่วมมือในรูปแบบอื่นๆ"

นายเหวียน ดันชุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวว่า หวังว่าจีนกับอาเซียนจะเสร็จสิ้นการเจรจาว่าด้วยเขตการค้าเสรีและลงนามในข้อตกลงโดยเร็ว

"เช่นนี้แล้ว เราก็จะสามารถทำการค้าเสรีได้ ทั้งภาคบริการและภาคการลงทุน ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นผลดีต่อนักลงทุนทั้งสองฝ่ายเท่านั้น หากยังจะมีผลให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นเขตที่มีสีสันใหม่ในการดึงดูดเงินทุนจากเขตอื่นๆ ด้วย"