วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การเจรจาระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ครั้งที่สองที่กรุงเปียงยาง ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วันสิ้นสุดลง สองฝ่ายผ่านมติที่จะใช้มาตรการทำให้สถานการณ์ทางทหารอันตึงเครียดระหว่างสองประเทศผ่อนคลายลง และให้การประกันทางทหารแก่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองฝ่าย แต่ไม่ได้เห็นพ้องต้องกันในปัญหาการจัดตั้งเขตผลประโยชน์ทางประมงร่วมกันในน่านน้ำภาคตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี

การเจรจาครั้งนี้จัดขึ้นตามข้อกำหนดของแถลงการณ์ว่าด้วยการพัฒนาความสัมพันธ์ สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ซึ่งผู้นำสองฝ่ายลงนามเมื่อต้นเดือนตุลาคมศกนี้ นับเป็นการเจรจาระดับรัฐมนตรีกลาโหมครั้งที่สองในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา นายคิม อีล-ชอล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือกับนายคิม จาง-โซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ได้นำคณะเข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้ และลงนามในข้อตกลงการเจรจารัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ตามข้อตกลงดังกล่าว สองฝ่ายจะใช้มาตรการเพื่อยุติการเป็นปฏิปักษ์ทางทหาร ทำให้สถานการณ์อันตึงเครียดระหว่างสองประเทศผ่อนคลายลง รักษาสันติภาพ คัดค้านการก่อสงครามอย่างเด็ดเดี่ยว และปฏิบัติตามหลักการไม่รุกรานต่อกันอย่างแน่วแน่ สองฝ่ายจะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันในน่านน้ำทะเลทางตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี สร้างกลไกสันติภาพที่ยั่งยืน และให้การประกันทางทหารแก่ความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างสองฝ่าย

เกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ตกลงจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางทหารเพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว และจะจัดการเจรจารัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมครั้งที่สามที่กรุงโซลในปีหน้า

สื่อมวลชนเกาหลีใต้เห็นว่า สิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดในข้อตกลงฉบับนี้คือ การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางทหาร เนื่องจากสองฝ่ายได้ตกลงจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางเศรษฐกิจและคณะกรรมการร่วมทางวัฒนธรรมและสังคม ในการเจรจาผู้นำเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ครั้งที่สอง ซึ่งจัดขึ้นก่อนหน้านี้ ในที่ประชุมรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมครั้งนี้ตกลงจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางทหารนั้น ก็เพื่อสร้างกรอบความร่วมมือรอบด้าน ซึ่งรวมทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม และด้านทหารระหว่างสองฝ่าย

สื่อมวลชนเกาหลีใต้ได้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ว่าการเจรจาครั้งนี้ได้รับผลคืบหน้า แต่สองฝ่ายไม่ได้เห็นพ้องต้องกันในปัญหาการจัดตั้งเขตผลประโยชน์ทางประมงร่วมในน่านน้ำภาคตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลีปัญหาสันติภาพในน่านน้ำทะเล ในการเจรจาครั้งนี้ เกาหลีใต้เสนอว่า ถือเส้นแบ่งเขตภาคเหนือเป็นศูนย์กลาง สองฝ่ายต่างแบ่งน่านน้ำที่มีพื้นที่เท่ากันออกมาเพื่อจัดตั้งเขตผลประโยชน์ร่วมทางประมง แต่เกาหลีเหนือเสนอว่า จะจัดตั้งเขตผลประโยชน์ทางประมงร่วมกันที่ภาคใต้ของเส้นแบ่งเขตภาคเหนือ เส้นแบ่งเขตภาคเหนือเป็นเส้นแบ่งน่านน้ำระหว่างเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือที่สหรัฐฯกำหนดตามลำพังฝ่ายเดียวหลังจากสงครามเกาหลีเหนือสิ่งสุดลง เกาหลีใต้ยืนหยัดในเส้นแบ่งเขตในปัจจุบัน แต่เกาหลีเหนือเห็นว่า เส้นแบ่งเขตดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงควรกำหนดใหม่

สื่อมวลชนเกาหลีใต้ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาการปักปันเขตน่านน้ำอาจจะส่งผลกระทบทางลบต่อการปฏิบัติตามข้อตลงที่สองฝ่ายลงนามในการเจรจาครั้งนี้ ขณะเดียวกัน ก็แสดงให้เห็นว่า สองฝ่ายไม่อาจจะขจัดความไม่เชื่อถือซึ่งกันและกันทางการทหารที่มีมาช้านานภายในระยะเวลาสั้นๆ การจัดตั้งเขตผลประโยชน์ร่วมทางประมงเป็นข้อตกลงสำคัญฉบับหนึ่งที่ผู้นำสองประเทศลงนามในการเจรจาที่กรุงเปียงยางเมื่อเดือนตุลาคมปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่เกิดการปะทะกันในน่านน้ำทะเลทางตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี ร่วมกันพัฒนาทรัพยากรประมง และบรรลุสันติภาพทางทะเล

Min/Sun