ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า ปี 2007 ปัญหานิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลียังคงเป็นจุดสนใจของประชาคมโลก ภายใต้ความพยายามของฝ่ายต่างๆ การเจรจาหกฝ่ายเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีได้รับผลคืบหน้าใหม่

"ก่อนวันที่ 31 ธันวาคมปีนี้ ซึ่งเป็นเส้นตายของการกำจัดสมรรถนะของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาด 5 แมกกะวัตตว์ ห้องทดสอบรังสีเคมี และโรงงานผลิตชิ้นส่วนเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ของเมืองยองเปียง ฝ่ายเกาหลีเหนือเห็นด้วยที่จะปฏิบัติตามเอกสารร่วม 13 กุมภาฯ ก่อนวันที่ 31 ธันวาคมปีนี้ จะแจ้งโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมดอย่างครบถ้วนและถูกต้อง สหรัฐฯจะเริ่มปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการลบชื่อเกาหลีเหนือออกจากบัญชีรายชื่อประเทศสนับสนุนการก่อการร้ายและผลักดันให้ยุติกระบวนการใช้กฎหมายการค้ากับประเทศปฏิปักษ์ต่อเกาหลีเหนือ"

เสียงที่ท่านได้ฟังเมื่อสักครู่นั้น เป็นการประกาศ "การปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมระยะที่สอง"โดยนายอู่ ต้า เหว่ย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ประธานการประชุมในพิธีปิดการเจรจาหกฝ่ายรอบที่หกระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมปีนี้ ผลงานชิ้นโบว์แดงเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่ากระบวนการเจรจาหกฝ่ายประสบผลอย่างแท้จริงนั้น เมื่อเร็วๆนี้ ศาสตราจารย์จุน บอง เกน จากสถาบันวิจัยการต่างประเทศกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ให้การชื่นชมต่อผลคืบหน้าดังกล่าว เขากล่าวว่า

"ปัญหานิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีเป็นปัญหายากที่จะแก้ไข แต่ปีนี้ การเจรจาหกฝ่ายได้ประสบผลคืบหน้าอย่างแข็งขัน ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องได้บรรลุเอกสารร่วม 12 กุมภาฯและเอกสารร่วม 3 ตุลาฯ ในเดือนกุมภาพันธ์และเดือนตุลาคมตามลำดับ ฝ่ายต่างๆต่างใช้มาตรการอย่างจริงจัง กระบวนการปลดนิวเคลียร์ได้รับผลคืบหน้าอย่างแท้จริง"

การที่ได้รับผลคืบหน้าสำคัญในระยะนี้ แยกออกจากการเจรจาหลายระยะและหลายรูปแบบที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายต่างๆในปีนี้ไม่ได้ ในฐานะเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาหกฝ่าย จีนได้แสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการผลักดันกระบวนการดังกล่าว ศ.จุน บอง เกนกล่าวว่า

"ทุกครั้งที่การเจรจาหกฝ่ายตกอยู่ในภาวะชะงักงัน ล้วนเป็นจีนแสดงบทบาทเป็นแกนนำ ทำให้การเจรจาสามารถดำเนินต่อไปได้ ในวันข้างหน้า จีนจะแสดงบทบาทสำคัญในกระบวนการการเจรจาหกฝ่ายต่อไป"

นายจิน ซี เต๋อ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยญี่ปุ่นของสภาวิทยาศาสร์สังคมแห่งประเทศจีนเห็นว่า เนื่องจากปัจจัยทางด้านเทคโนโลยีและการเมือง เป้าหมายการกำจัดสมรรถนะและแจ้งโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมดนั้นยากที่จะบรรลุความจริง เขากล่าวว่า

"ปัจจุบัน ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาเชิงเทคโนโลยี อาทิ ฝ่ายต่างๆมีความคาดหมายว่าการลดสรรมถนะนิวเคลียร์ทำได้ง่ายๆ ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เป็นกระบวนที่ต้องใช้เวลาและเงินทอง ประการที่สอง ความไม่ไว้วางใจระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือที่เกิดขึ้นมานานแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงในวันเดียวคืนเดียว ต้องรอจังหวะเวลา"

ขณะเดียวกัน เขากล่าวว่า ควรมองกระบวนการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีอย่างสงบสุขุม ด้วยวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล การปลดนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีเป็นแนวโน้มประวัติศาสตร์ แต่กระบวนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะไม่มีความราบรื่นตลอดเวลา