จีนกับไทยลงนามความตกลงทางวัฒนธรรมฉบับใหม่

เมื่อค่ำวันที่ ๑๗ นี้ ที่กรุงเทพฯ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไทยในนามของรัฐบาลไทยและนายจางจิ่วหวน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยในนามของรัฐบาลจีนได้ร่วมลงนามในความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการจัดตั้งและสถานะของศูนย์วัฒนธรรม นับเป็นความตกลงทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกฉบับหนึ่งระหว่างจีนกับไทย ซึ่งย่อมจะมีบทบาทส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในอนาคต โอกาสนี้ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณได้กล่าวในพิธีลงนามว่า

"ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยร่วมพิธีลงนามในความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการจัดตั้งและสถานะของศูนย์วัฒนธรรมในวันนี้

??ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นมิตรประเทศที่มีความใกล้ชิดมาช้านานและยิ่งใกล้ชิีดมากขึ้นตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศทั้งสอง เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นต้นมา ในด้านความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอทั้งในระดับพระราชวงศ์ ผู้บริหารระดับสูง จนถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนด้านนิทรรศการ งานศิลปะ ดนตรีและนาฎศิลป์ ซึ่งส่งผลให้เกิดการติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างบุคคลากรทางวัฒนธรรม และยังส่งเสริมให้เกิดการไปมาหาสู่และความสัมพันธ์ในระดับประชาชนของทั้งสองประเทศให้เป็นไปอย่างใกล้ิชิดมากยิ่งขึ้นโดยลำดับ จนถึงปัจจุบัน นับเป็นปีที่ ๓๒ แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ไทยและจีนต่างให้ความสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกันมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง เพราะทั้งสองประเทศมีนโยบายที่คล้ายคลึงกันคือ ฟื้นฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรมและมุ่งให้ัวัฒนธรรมเป็นเึครื่องค้ำจุนทางจิตใจของประชาชน รวมทั้งเป็นสื่อสานสัมพันธ์อันใกล้ชิดและแน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศอีกด้วย ทำให้การดำเนินงานความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น ดังจะเห็นได้จากการจัุดทำแผนปฏิบัิติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศที่มีอย่างต่อเนื่องตลอดมา ทำให้ิดิฉันมั่นใจว่า ในทศวรรษที่สี่ของความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเป็นทศวรรษแห่งการสร้างสรรค์ การขยายความสัมพันธ์และความร่วมมือในกิจกรรมทางวัฒนธรรมระหว่างกันให้กว้างไกลยิ่งขึ้นไปอีก ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองฝ่ายที่ตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานแห่งหลักการทั้งหลายที่เห็นพ้องร่วมกัน รวมทั้งการมีลักษณะร่วมทางวัฒนธรรม ได้นำความสำเร็จมาสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรไมตรีต่อกันในปัจจุบัน และเป็นหลักประกันในอันที่จะเสริมสร้างสัมพันธภาพให้ยั่งยืนถาวรต่อไป ทั้งนี้ ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและัรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการจัดตั้งและสถานะของศูนย์วัฒนธรรมที่ดิฉันจะลงนามร่วมกับท่านเอกอัราราชทูตฯ ในวันนี้ นับเป็นความสำเร็จของความสัมพันธ์ต่อกันอีกขั้ันหนึ่ง และจะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือทางวัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศและประชาชนของเราทั้งสองสืบไป"

นายจางจิ่งหวน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยก็ได้กล่าวแสดงความยินดีในพิธี เขากล่าวว่า

" ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเข้าร่วมพิธีลงนามในวันนี้ เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ปีพ.ศ. ๒๕๔๔ ความตกลงทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัฐบาลราชอาณาจักรไทยได้ลงนาม ณ กรุงปักกิ่ง นับแต่นั้นมา ความสัมพันธ์ทางด้่านวัฒนธรรมระหว่างประเทศเราทั้งสองได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ เราก็จะลงนามในความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัฐบาลราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการจัดตั้งและสถานะของศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งเป็นความตกลงที่สำคัญอีกฉบับหนึ่ง นับเป็นผลงานที่ดีจากการแลกเปลี่ยนกันทางวัฒนธรรมที่มีมาอย่างช้านานระหว่างจีนกับไทย และยังเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศเราทั้งสองอีกด้วย

ศูนย์วัฒนธรรมจะแสดงบทบา่ทที่ดีเสมือนห้่องเรียนเผยแพร่ความรู้ และเวทีแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ทั้งยังเป็นสถานที่จัดการแสดงศิลปะของประเทศทั้งสองด้วย การจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมจะ่ส่งเสริมให้ประชาชนรู้่จักประเทศทั้งสองโดยตรงมากขึ้น และจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์ฉันมิตร และเพิ่มพูนมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศให้ัมากยิ่งขึ้น

ศูนย์วัฒนธรรมจีนจะเีิริ่มการก่อสร้างที่กรุงเทพฯในอีกไม่นานวันข้างหน้า เราหวังว่า ฝ่ายไทยจะจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยที่กรุงปักกิ่งในเร็ววัน

ขอใหัเราจงร่วมมือกัน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนกันทางวัฒนธรรมระหว่างจีนกับไทยให้มีอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้่น?"