สวัสดีค่ะท่านผู้ฟัง ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ"มองสังคมจีน"ค่ะ ในรอบปี 2007 ที่ผ่านไป คำว่า"อ้าวหยู้น"แปลว่า"งานกีฬาโอลิมปิก"เป็นคำที่ใช้กันมากที่สุดในประเทศจีน งานกีฬาโอลิมปิกกรุงปักกิ่งที่ใกล้จะมาถึงทำให้ชีวิตของประชาชนจีนได้เพิ่มสีสันมากขึ้น รายการวันนี้ ดิฉันจะขอนำเรื่องเกี่ยวกับสีสันโอลิมปิกในชีวิตประชาชนจีนมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ที่กรุงปักกิ่งมีคุณยายอายุ 103 ปีคนหนึ่ง ชื่อ ฉาวโจ่เจิ้ง คุณยายเป็นคนที่รักกีฬาและชอบออกกำลังกาย จึงมีสุขภาพแข็งแรงมาตลอด คุณยายรู้สึกตื่นเต้นมากที่งานกีฬาโอลิมปิกใกล้จะเริ่มขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ท่านมีความความปรารถนาประการหนึ่ง
"ยายอยากไปเข้าร่วมส่งต่อคบเพลิงโอลิมปิก"
ปี 2004 คุณยายมีอายุ 100 ปีพอดี ในช่วงที่จัดกิจกรรมส่งต่อคบเพลิงโอลิมปิกเอเธนส์ในกรุงปักกิ่ง เป็นช่วงฤดูร้อนอากาศร้อนจัด แต่คุณยายเดินทางไปชมงานส่งต่อคบเพลิงตามถนนอย่างสนุกสนาน และยังถ่ายรูปกับนักกีฬาส่งต่อคบเพลิงเป็นที่ระลึก หลังจากนั้น คุณยายมีความปรารถนาว่า อยากมีส่วนร่วมในการส่งต่อคบเพลิงโอลิมปิก
ลูกหลานของคุณยายล้วนสนับสนุนและให้กำลังใจคุณยายเสมอคุณเซียวเซิงเฉียง ลูกชายของคุณยายกล่าวว่า
"เราเข้าใจคุณแม่ที่มีความปรารถนาอยากมีส่วนร่วมงานโอลิมปิก ปกติ เรามักจะเล่าเรื่องหรืออ่านหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับงานกีฬาโอลิมปิกให้แม่ฟังเป็นประจำ"
ลูกหลานของคุณยายยังเล่าให้ฟังว่า คุณยายหมั่นไปออกกำลังกายทุกวันและแกว่งแขนหลายสิบครั้งเพื่อให้มีแรงยกคบเพลิงขึ้นได้
ส่วนนักศึกษาวัยหนุ่มสาวจีน ยิ่งสนใจข่าวสารโอลิมปิก คุณเหลียงเฉิน นักศึกษาหญิงปีที่สองของมหาวิทยาลัยการบินอวกาศปักกิ่งผ่านการทดสอบมาหลายรอบได้กลายเป็นอาสาสมัครงานกีฬาโอลิมปิกปี 2008 เธอรู้สึกภาคภูมิใจมาก เพราะว่าผู้ที่สมัครขอเป็นอาสาสมัครมีจำนวนมาก แต่ผู้โชคดีที่สมความปรารถนาได้มีส่วนน้อย เธอให้สัมภาษณ์ว่า
"เวลานี้ สนใจข่าวสารโอลิมปิกเป็นพิเศษ โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับอาสาสมัคร หนังสือพิมพ์ที่ชอบอ่านที่สุดคือ อ้าวหยู้นเซียนเฟิง ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์เฉพาะด้านอาสาสมัครงานกีฬาโอลิมปิก นอกจากนี้ เรามักจะชอบใส่เสื้อกีฬาสีส้มที่มีสัญญลักษณ์โอลิมปิก"
ตามแผนการของหน่วยงานรัฐบาลกรุงปักกิ่ง ก่อนเปิดงานโอลิมปิก จะต้องฝึกอบรมชาวเมืองให้พูดภาษาอังกฤษแบบสนทนาง่ายๆประมาณ 4-5 ล้านคน เพื่อเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือชาวต่างชาติที่เดินทางมาชมการแข่งขันโอลิมปิกหรือมาท่องเที่ยวกรุงปักกิ่ง ตัวเลขนี้เป็นร้อยละ 30 ของประชากรกรุงปักกิ่ง คุณฉาวฟาง ที่ทำงานในบริษัทน้ำมันปิโตรเลียมได้สอบเข้าเป็นอาสาสมัครสอนภาษาอังกฤษในช่วงวันหยุดราชการ เธอเล่าให้ฟังว่า ผู้ที่สอบเข้าเป็นอาสาสมัครสอนภาษาอังกฤษมีหลายร้อยคนล้วนจบมหาวิทยาลัยหลักภาษาอังกฤษ ปกติ เราต่างคนต่างทำงานในวงการต่างๆ แต่เมื่อถึงวันเสาร์อาทิตย์ก็ต้องไปสอนภาษาอังกฤษที่เขตชุมชนต่างๆ เธอกล่าวว่า
"ผู้ที่เรียนในเขตชุมชน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุ 50-60 พื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ค่อยดี แต่พวกเขามีความกระตือรือร้นมากในการเรียนและขยันมาก"
คุณยายหูโหย้เซิงวัย 58 ปี ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีพื้นฐานภาษาอังกฤษเลย หลังผ่านการอบรมเป็นเวลาไม่กี่เดือน เวลานี้คุณยายหูโหย้เซิงสามารถสนทนาแบบง่ายๆและพูดคำขวัญโอลิมปิกได้หลายประโยค (เสียงพูดภาษาอังกฤษ)
นอกจากนี้ ยังมีคนจำนวนหนึ่งได้เปลี่ยนชีวิตของตนเองเพราะงานโอลิมปิก คุณจางเจี้ยนซู วัย 47 เป็นกรรมกรหญิงในเมืองไคเฟิงของมณฑลเหอหนานทางภาคกลางของจีน หลังจากโรงงานปิดแล้ว เธอตกงาน แต่อาศัยฝีมือเย็บปักถักร้อยที่ยอดเยี่ยม เธอได้จัดตั้งบริษัทศิลปหัตถกรรมพื้นเมืองแห่งหนึ่ง และผลิตภัณฑ์ขายดิบขายดี ด้วยเหตุที่มีคุณภาพดีและสินค้ามีลักษณะความเป็นจีนอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น บริษัทของจางเจี้ยนซูได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลให้ผลิตสินค้าโอลิมปิก เธอให้สัมภาษณ์ว่า
"รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสเผยแพร่ผลิตภัณฑ์เย็บปักถักร้อยของเมืองไคเฟิงซึ่งมีประวัติยาวนานไปสู่ประเทศต่างๆทั่วโลกโดยผ่านงานโอลิมปิกกรุงปักกิ่ง "
เรื่องที่น่าดีใจกว่านี้อีกเรื่องหนึ่งคือ จางเจี้ยนซูยังได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ส่งต่อคบเพลิงของมณฑลเหอหนาน ค่ำวันที่ 12 ตุลาคมปี 2007 ในงานประกาศรายชื่อนักวิ่งส่งต่อคบเพลิงโอลิมปิกเขตมณฑลเหอหนาน เมื่อได้ยินชื่อตัวเอง จางเจี้ยนซูตื่นเต้นจนน้ำตาไหล คุณโกยี่หยางลูกสาวของเธอเดินทางไปเชียร์คุณแม่ให้สัมภาษณ์ว่า
"วันนั้น ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่กล้ามองหน้าคุณแม่เลย แม่เป็นคนที่สามที่ได้รับประกาศชื่อ ดิฉันรีบโยนกล้องถ่ายรูปไปให้เพื่อน แล้วลุกขึ้นเชียร์คุณแม่ทันที รู้สึกภูมิใจแทนคุณแม่เพราะแม่ได้รับการคัดเลือกออกมาจากหลายหมื่นคน"
ท่านผู้ฟังค่ะ ในรอบปี 2007 อาจจะเป็นปีที่ไม่มีวันลืมเลือนได้ของประชาชนจีนจำนวนมาก ที่ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ เพื่อความปรารถนาในงานโอลิมปิก และเพื่อต้อนรับงานโอลิมปิกกรุงปักกิ่งที่ใกล้จะมาถึง
|