ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา เขตเลือกตั้งที่สามของจังหวัดนคร ราชสีมาได้จัดการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร นับเป็นการเลือกตั้งซ่อมครั้งแรกของไทยหลังจากการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมปีที่แล้ว นักวิเคราะห์เห็นว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะไม่มีอิทธิพลใดๆต่อการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีของไทย แต่เนื่องจากมีคดีฟ้องร้องการเลือกตั้งไม่สะอาดหลายรายอาจจะทำให้พรรคการเมืองบางพรรคถูกยกเลิกไป ฉะนั้น สถานการณ์การเมืองไทยยังเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงในปีใหม่นี้

ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร 480 คนที่ได้รับเลือกนั้นมี 83 คนถูกฟ้องร้องว่า มีการทุจริตคอรัปชั่น ในจำนวนนี้ 65 คนเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน จนถึงปัจจุบัน คณะกรรมการเลือกตั้งได้ยืนยันคุณสมบัติของสมาชิกฯกว่า 420 คนแล้ว และได้ยกเลิกคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งกว่า 10 คนจากพรรคต่างๆ ยังมีอีกหลายสิบคนรอการตัดสินคดี นอกจากจังหวัดนครราชสีมาแล้ว เขตเลือกตั้งอื่นๆที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งถูกถอนคุณสมบัตินั้น ก็จะจัดการเลือกตั้งซ่อมในเร็วๆนี้

ตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฏรชุดใหม่ของไทยควรจะจัดการประชุมครั้งแรกภายใน 30 วันหลังการเลือกตั้งทั่วไป คือก่อนวันที่ 22 มกราคมนี้ สมาชิกฯเข้าร่วมการประชุมจะต้องไม่น้อยกว่า 95%ใน 480 ที่นั่ง คือ 456 ที่นั่ง ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งประเทศไทยเคยกล่าวว่า จะเร่งการยืนยันคุณสมบัติของสมาชิกฯที่ได้รับเลือกตั้ง เพื่อให้การประชุมครั้งแรกของสภาผู้แทนราษฏรสามารถจัดขึ้นตามกำหนด คณะกรรมการเลือกตั้งยังกล่าวว่า ถ้าจำนวนสมาชิกฯที่ได้รับการรับรองคุณสมบัติไม่ครบ 456 คนก่อนวันที่ 22 มกราคมนี้ คณะกรรมการฯจะใช้มาตรการฉุกเฉินโดยจะรับรองคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ยังรอการพิจารณาอยู่ก่อน และหลังตัดสินคดีแล้วค่อยว่ากัน ด้วยเหตุนี้ การประชุมครั้งแรกของสภาผู้แทนราษฏรไทยคงจะจัดขึ้นก่อนวันที่ 22 มกราคมนี้ได้

พิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ถูกเพิกถอนคุณสมบัติยังไม่ค่อยมาก ด้วยเหตุนี้ การเลือกตั้งซ่อมไม่มีอิทธิพลต่อการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีและการเจรจาระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ก่อนหน้านี้ พรรคพลังประชาชนที่เป็นพรรคใหญ่ที่สุดได้รับการสนับสนุนจากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคมัชฌิมาธิปไตยและพรรคประชาราชซึ่งเป็นพรรคขนาดเล็ก สี่พรรคดังกล่าวประกาศว่าจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้น ส่วนพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินที่เป็นพรรคขนาดกลางก็ประกาศว่า จะเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาลผสมด้วย ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคอันดับที่สอง คู่แข่งของพรรคพลังประชาชนกล่าวว่า ถ้าพรรคพลังประชาชนจัดตั้งคณะรัฐมนตรีด้วยความสำเร็จ พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นพรรคฝ่ายค้านพรรคเดียวของสภาผู้แทนราษฏร แต่ขณะเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์เคารพสิทธิ์จัดตั้งคณะรัฐมนตรีก่อนพรรคอื่น แต่เนื่องจากคดีทุจริตคอรัปชั่นของพรรคพลังประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งยังรอการพิจารณา สถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้งยังคงเปลี่ยนแปลง ฉะนั้น พรรคประชาธิปัตย์เตรียมพร้อมที่จะรับหน้าที่จัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้น

นักวิเคราะห์กล่าวชี้ว่า ถ้าไม่เกินความคาดหมาย การประชุมครั้งแรกของสภาผู้แทนราษฏรชุดใหม่ของไทยจะจัดขึ้นตามกำหนด พรรคพลังประชาชนและพรรคการเมืองอื่นๆก็มีหวังจะจัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้น นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนจะดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดใหม่