อ สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟัง ขอต้อนรับสู่รายการสนทนาสองสภากับอินทนิล วันนี้ คุณพิศศรี ห่อเพชรพลอย รองหัวหน้าภาคภาษาไทยซีอาร์ไอ กรุณามาพูดคุยกับดิฉันด้วย สวัสดีค่ะคุณพิศศรี

พ สวัสดีค่ะ คุณอินทนิล สวัสดีค่ะท่านผู้ฟัง

อ ในการประชุมของสองสภาปีนี้มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะในที่ประชุมหรือนอกที่ประชุม โดยส่วนตัวดิฉันว่านอกที่ประชุมนี่บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมต่างก็พร้อมที่จะพูดคุยให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในด้านต่าง ๆ ระบบการอำนวยความสะดวกแก่สื่อมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศเกือบสามพันคนที่ปักหลักทำข่าวการประชุมสองสภา รู้สึกว่าส่วนใหญ่จะสะท้อนถึงความพึงพอใจและชื่นชมระบบที่คณะผู้จัดการประชุมและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้จัดให้ ขณะที่ในที่ประชุมเองก็มีประเด็นที่สอดรับกับการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระดับต่าง ๆ อย่างครบถ้วน รวมถึงแผนปฏิรูปองค์กรคณะรัฐมนตรีที่ดิฉันชอบใจมาก ๆ เนื่องจากเน้นการปฏิรูปให้รัฐบาลบริการประชาชนให้ดีที่สุด จะเรียกว่ารัฐบาลบริการ ก็ว่าได้ คุณพิศศรีล่ะคะสนใจอะไรเป็นพิเศษ

พ ดิฉันประทับใจผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมของสองสภานี้มาก โดยเฉพาะบรรดาผู้แทนที่มาจากวงการธุรกิจ พากันออกมาสะท้อนจิตสำนึกในการแบกรับความรับผิดชอบทางสังคม ไม่ปล่อยให้เป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาล หรือฝ่ายบ้านเมืองเพียงฝ่ายเดียว อย่างวลีเด็ดของคุณหลิว อิ๋งเซี๋ย (Liu Yingxia) สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติ วัย 36 ปี ที่มีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริษัทกลุ่มเสียงอิง(Xiang Ying) เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ที่บอกกับผู้สื่อข่าวว่า "ในฐานะสมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติ ดิฉันจะเป็นเพียงปากเสียงของคนรวยแต่อย่างเดียว ไม่ได้เด็ดขาด"

อ แหม เป็นวลีเด็ดจริง ๆ ดูเหมือนว่าขณะที่คุณหลิว อิ๋งเซี๋ย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลายร้อยคนที่ห้องแถลงข่าวมหาศาลาประชาชน นั้น จะมีผู้แทนที่เป็นนักธุรกิจเช่นเดียวกับเธอ ออกมายืนยันเจตนารมณ์นี้กับเธอด้วย อย่างนายสีห์ ก้วนเฉิน (Xu Guanchen) วัย 47 ปี นักธุรกิจจากมณฑลเจ้อเจียง เศรษฐีร้อยล้านหยวน ติดอันดับคนรวยลำดับที่ 125 ของจีน ประจำปี 2007 โดยนิตยสารฟอร์บส์ของสหรัฐอเมริกา นายหวัง เจี้ยนหลิน (Wang Jianlin) นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงจากมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งกลุ่มธุรกิจของเขามีสินทรัพย์กว่าหมื่นล้านหยวนและบริจาคเงินเพื่อการกุศลกว่าพันล้านหยวน นายหาน ฟังหมิง(Han Fangming) นักการธนาคารที่เคยทำการวิจัยที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และคุณหลิว หงอี่ว์(Liu Hongyu) หนึ่งในหุ้นส่วนสำนักทนายความที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกรุงปักกิ่ง

พ คนเหล่านี้ถือว่าเป็นชนชั้นใหม่ของจีน คุณหลิว อิ๋งเซี๋ยยังได้ระบุว่า "ดิฉันเห็นว่า ชนชั้นใหม่เป็นผู้ได้ประโยชน์จากผลของการปฏิรูปและเปิดประเทศในรอบ 30 ปี " และโดยส่วนตัวของเธอเองเธอจดจำคำพูดของท่านเติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของจีนที่กล่าวว่า "ควรให้คนส่วนหนึ่งและพื้นที่ส่วนหนึ่งรวยขึ้นมาก่อน" ดังนั้น เมื่อเธอมีสถานะความเป็นอยู่ที่ดี เธอก็คิดที่จะร่วมรับผิดชอบสังคม โดยใช้ความรู้ความสามารถของเธอ

อ ขณะที่นายสีว์ ก้วนเฉิน คนรวยลำดับที่ 125 ของจีน บอกว่า ปี 1997ปีแรกที่เขามีส่วนร่วมทางการเมือง เมื่อเขายืนอยู่หน้ามหาศาลาประชาชนที่มีความเคร่งขรึมนั้น ความรู้สึกแห่งความภาคภูมิใจและความรู้สึกแห่งเกียรติยศก็เกิดขึ้นมา เขารู้สึกว่า นี่เป็นการรับฝากจากประเทศชาติและประชาชน เขาควรแบกรับความรับผิดชอบการเป็นสมาชิกสภาฯ"

พ นี่เป็นเสียงสะท้อนของบรรดานักธุรกิจที่ต่างเข้ามาแบกรับความรับผิดชอบต่อสังคม เมื่อธุรกิจของเขามั่นคง รุ่งเรือง เขาและครอบครัวรวมทั้งวงศ์วานก็คงจะอยู่ดีมีสุข พรั่งพร้อมบริบูรณ์ แต่เขาเหล่านี้ยังคิดถึงคนอื่น ๆ คิดถึงสังคมด้วย

อ นี่เป็นเรื่องดีค่ะ เพราะถ้าเรามั่งมีศรีสุขแต่คนรอบข้างยังเดือดร้อน แล้วเราดูดาย เจ้าความสุขก็คงจะอยู่กับเราได้ไม่นาน แต่ถ้าคนรวยพร้อมที่จะยื่นมือมาช่วยเหลือ แบ่งปันให้กับสังคมทั้งในรูปแบบของความรู้ความสามารถและกำลังทรัพย์ในบางโอกาส โดยมุ่งผลที่ประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศชาติ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มธุรกิจหรือพวกพ้อง

พ ค่ะ ใครที่เคยเป็นห่วงว่าช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนในจีนที่มีมากขึ้น จะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา ก็คงสบายใจได้ว่า อย่างน้อยที่สุดนักธุรกิจรุ่นใหม่เหล่านี้ก็มีจิตสำนึกในการแบกรับความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างท้วมท้นและพร้อมจะใช้ศักยภาพที่มีอยู่ให้เกิดผลในการพัฒนาชาติบ้านเมืองมากยิ่งขึ้น

อ พบกับสนทนาสองสภาได้ใหม่ในวันพรุ่งนี้ วันนี้ดิฉันพิศศรี ห่อเพชรพลอย และคุณอินทนิล ปลดเปลื้อง ต้องลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

พ สวัสดีค่ะ