นอกจากนี้ เรื่องค่ารักษาพยาบาลแพงและมีความยากลำบากในการรักษาพยาบาลก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจในปีหลังๆนี้ โดยเฉพาะในเขตชนบทและเขตยากจน ระบบรักษาพยาบาลจะมีความก้าวหน้าอย่างไร รายงานของนายกเวินเจียเป่าประจำปี 2006 เคยระบุว่า จะใช้ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลแบบร่วมมือกันในชนบทในปี 2008 เนื่องมาจากข้อเสนอของหม่าเวินฟางผู้จัดการคลินิคในชนบทแห่งหนึ่งของมณฑลเหอหนาน
นายหม่าเวินฟาง วัย 57 ปีได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนสภาฯ เป็นครั้งแรก เขาเคยเข้าร่วมการประชุมสัมมนาวงการสาธารณสุขของคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2006 โดยได้รายงานสภาพความยากลำบากในการรักษาพยาบาลของเกษตรกรผู้ยากไร้ให้นายกเวินเจียเป่ารับทราบ และเสนอต่อหน้านายกเวินเจียเป่าว่า ควรใช้ระบบรักษาพยาบาลใหม่ในชนบท นายกเวินเจียเป่าถามเขาว่า เชื่อมั่นในระบบรักษาพยาบาลใหม่ขนาดไหน เขาตอบว่า มั่นใจมาก
หม่าเวินฟางไม่ได้คาดคิดว่า ความปรารถนาของเขาได้ปรากฎเป็นจริงในเร็วๆนี้เอง เขาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า
"หลังจากรายงานกับนายกแล้ว อำเภอเราเริ่มทดลองใช้ระบบรักษาพยาบาลใหม่และได้เสียงตอบสนองดีมาก ปี 2008 เงินอุดหนุนค่ารักษาพยาบาลให้ชาวบ้านจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 หยวนจากเดิม 50 หยวน อตัราส่วนค่ารักษาพยาบาลที่เบิกได้ก็เพิ่มเป็นร้อยละ75 จากเดิมร้อยละ50 ชาวบ้านต่างแสดงยินดีที่ใช้ระบบนี้"
หม่าเวินฟางให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า
"หลังจากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนของสภา รู้สึกมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบมากขึ้น"
เขายังกล่าวว่า ในการประชุมสภาปี 2008 เขาได้ยื่นญัตติอีกฉบับหนึ่ง โดยเสนอให้ร่างกฏหมายว่าด้วยกาารใช้ระบบรักษาพยาบาลในชนบท เพื่อคุ้มครองสิทธิผลประโยชน์ของชาวบ้านในการรักษาพยาบาล 1 2
|