|
(GMT+08:00)
2008-03-19 19:33:39
|
|
ประธานกิตติมศักดิ์คณะกรรมการที่ปรึกษาการพัฒนาเขตปกครองตนเองทิเบตประณามการก่อเหตุการณ์รุนแรงที่เมืองลาซา
cri
วันที่ 19 มีนาคมนี้ ที่กรุงปักกิ่ง นายเร่อดี้ บุคคลอาวุโสชนชาติทิเบต ประธานกิตติมศักดิ์คณะกรรมการที่ปรึกษาการพัฒนาเขตปกครองตนเองทิเบตของจีนได้ประณามการก่อเหตุการณ์"เผาทำลายทุกตีและปล้นสะดม"ที่เมืองลาซา เมืองเอกเขตฯทิเบตของจีนอย่างรุนแรง นายเร่อดี้กล่าวว่า เรื่องนี้พิสูจน์อีกครั้งว่า การเคลื่อนไหวที่มีเงินหมายจะแบ่งแยกประเทศของกลุ่มทะไลลามะไม่เคยยุติลงเลย เมื่อเช้าวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ที่วัดเสี่ยวจาว ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองลาซา มีพระสงฆ์บางรูปขว้างหินโจมตีตำรวจที่กำลังทำหน้าที่ตามปกติอยู่ หลังจากนั้น กลุ่มโจรก่อการร้ายเริ่มชุมนุมกันที่ถนนในเมืองลาซา ตะโกนข้อความให้แบ่งแยกประเทศ แล้วลุกลามไปถึงการเผาทำลายทุบตีและปล้นสะดมขนาดใหญ่ เหตุการณ์ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลปรากฎว่า การก่อเหตุการณ์ใช้กำลังรุนแรงครั้งนี้ กลุ่มโจรการร้ายได้เผาที่พักอาศัยและร้านค้าทั้งหมดกว่า 210 ห้อง ทำลายและเผารถยนต์ 56 คัน ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 13 คน นายเร่อดี้เผยว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่พิสูจน์ได้ว่า เหตุการณ์นี้มีการจัดตั้ง วางแผน และยั่วยุโดยกลุ่มทะไลลามะ นายเร่อดี้กล่าวว่าเป้าหมายก็คือตั้งใจจะก่อเหตุในช่วงระยะเวลานี้ซึ่งเป็นช่วงที่อ่อนไหว มุ่งจะก่อเหตุการณ์ที่มีอิทธิพลมากจนถึงขึ้นเป็นเหตุการณ์นองเลือด เพื่อทำลายงานกีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง ทำลายความมั่นคงทางสังคมและเสถียรภาพทางการเมืองที่สงบเีรียบร้อยและสมานฉันท์ของจีน เหตุการณ์นี้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า กลุ่มทะไลลามะซึ่งเป็นกลุ่มลัทธิแบ่งแยกประเทศที่เคลื่อนไหวในต่างประเทศไม่เคยลดละความพยายามแทรกซึมและมุ่งการโค่นอำนาจของรัฐบาลจีน การเคลื่อนไหวเพื่อแบ่งแยกประเทศของกลุ่มทะไลลามะไม่เคยหยุดลงเลย คณะกรรมการที่ปรึกษาการพัฒนาเขตปกครองตนเองทิเบตเป็นองค์กรที่ปรึกษาที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการ ออกข้อเสนอแผนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของทิเบต นายเร่อดี้ อายุ 70 ปี เคยเป็นทาสเกษตรกร เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของทิเบตที่เกิดขึ้นตั้งแต่ทิเบตปลดแอกอย่างสันติเมื่อปี 1951 ด้วยตนเอง นายเร่อดี้กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่โดยความบังเอิญ ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ทิเบตมีการพัฒนาเร็วที่สุด การเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ประชาชนทิเบตได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทิเบต แต่กลุ่มแบ่งแยกประเทศของทะไลลามะไม่อยากเห็นสังคมทิเบตพัฒนาก้าวหน้า เศรษฐกิจเติบโต ชนชาติทิเบตมีความสามัคคี และไม่อยากเห็นประชาชนทิเบตเป็นผู้บริหารทิเบตและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จึงใ้ช้วิธีการทุกรูปแบบทำลายเพื่อการพัฒนาอย่างมั่นคงของทิเบตจนกระทั่งพื้นที่อื่น ๆ ที่มีชาวทิเบตอาศัย หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว หน่วยงานรัฐบาลเขตฯทิเบตได้ใช้มาตรการอย่างทันกาล ลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมาย ขณะนี้ เมืองลาซากลับคืนสู่ความสงบเรียบร้อยแล้ว ฟื้นฟูระเบียบและความมั่นคงของสังคม แต่กลุ่มทะไลลามะและบุคคลประเทศตะวันตกบางคนกลับเรียกพฤติกรรม"เผาทำลายทุบตีและปล้นสะดม"ของโจรก่อการร้ายเป็น"การประท้วงแสดงกำลังอย่างสันติ" เรียกการลงโทษพฤติกรรมที่ใช้กำลังรุนแรง คุกคามถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและระเบียบของสังคมอย่างรุนแรงว่าเป็น"การปราบปรามการประท้วงอย่างสันติ" นายเร่อดี้กล่าวว่า คำพูดเหล่านี้มองข้ามข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ เป็นการโกหกอย่างสิ้นเชิง นายเร่อดี้กล่าวว่า ขอถามหน่อยว่า รัฐบาลประเทศไหน ในโลกนี้ จะนิ่งเฉย ต่อเหตุการณ์รุนแรงที่ทั้งเผาทำลายทุบตีและปล้นสะดมที่เกิดขึ้นแบบเดียวกันกับที่เมืองลาซาได้เป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลชุดไหนจะไม่รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปล่อยให้พวกโจรก่อการร้ายทำลายระเบียบของสังคมที่สมานฉันท์และมีความมั่นคง ทำลายสถานการณ์บ้านเมืองที่สงบเรียบร้อยและมีความสามัคคีกัน พูดตรง ๆ ว่า ไม่ว่าประเทศใดก็ไม่สามารถอดรนทนต่อเหตุการณ์เช่นนี้ได้ Min/Dan
|
|
|