เมื่อเร็วๆนี้ นายกัว ซู่ชิง ผู้ว่าการธนาคารเจี้ยนเซื่อของจีนเปิดเผยว่า ตัวเลขสถิติขั้นต้นปรากฎว่า เงินตราต่างประเทศภาครัฐบาลและภาคเอกชนทั้งหมดมีมากกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อปี 2006 ธนาคารเจี้ยนเซื่อของจีนได้ควบรวมกิจการธนาคารของทวีปอเมริกา ในเอเซีย ปีที่แล้ว ธนาคารอุตสาหกรรมและการค้าจีน ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐขนาดใหญ่ที่สุดในจีน ได้ซื้อหุ้นของธนาคารมาตรฐานแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นขนาดใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก
เมื่อพิจารณาถึงการซื้อกิจการธนาคาร นายกัว ซู่ชิงกล่าวว่า ความต้องการของลูกค้า การแสวงหาข้อมูลข่าวสารในตลาดโลก การอบรมบุคลากร และการบรรเทาความเสี่ยง เป็นต้น ต่างก็เป็นปัจจัยที่เร่งให้ธนาคารของจีนบุกเบิกพัฒนาตลาดในต่างประเทศ เขากล่าวว่า ไม่สนับสนุนการควบคุมวิสาหกิจที่ดำเนินกิจการในต่างประเทศโดยตรง แต่ต้องมีความระมัดระวัง เพราะประสบการณ์ของวิสาหกิจจีนในด้านนี้ยังมีน้อย
ส่วนนายเจียง เจี้ยนชิง ผู้ว่าการธนาคารอุตสาหกรรมและการค้าจีนกล่าวว่า ในช่วงหลายสิบปีข้างหน้า การซื้อกิจการในต่างประเทศจะเป็นภาพที่ปรากฎขึ้นบ่อยครั้งและท้าทายต่อวิสาหกิจและธนาคารของจีน
เขากล่าวว่า เมื่อเทียบกับธนาคารใหญ่ของประเทศพัฒนาจำนวนหนึ่ง สัดส่วนกิจการธนาคารของจีนในตลาดโลกยังค่อนข้างต่ำ อย่างเช่น จนถึงปลายปี 2007 ทรัพย์สินในต่างประเทศของธนาคารอุตสาหกรรมและการค้าจีนมีแค่ 3% ของทรัพย์สินทั้งหมด
นายเจียง เจี้ยนชิงเห็นว่า ธนาคารของจีนต้องนำเข้าการลงทุนด้านยุทธศาสตร์ และการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ปรับปรุงระบบบริหารให้ดีขึ้น จึงจะเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจได้ การส่งเสริมกิจการในตลาดโลกกลายเป็นช่องทางที่จำเป็นแล้ว
นายเกื่อ หลิน ผู้ว่าการธนาคารฮ่วยเฟิงของฮ่องกงแสดงการสนับสนุนต่อการซื้อกิจการในตลาดโลกของธนาคารจีน เขากล่าวว่า การบุกเบิกพัฒนากิจการในต่างประเทศนั้นจะเป็นผลดีต่อการเพิ่มกำลังการแข่งขันของธนาคารจีน การควบรวมและซื้อกิจการในต่างประเทศเป็นวิธีการสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน และเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ในกระบวนการที่จีนเข้าร่วมกระแสโลกาภิวัฒน์
|