นายคิม เคีย-กวัน หัวหน้าคณะผู้แทนเกาหลีเหนือกับนายคริสโตเฟอร์ ฮิลล์ หัวหน้าคณะผู้แทนสหรัฐอเมริกาในการเจรจา 6 ฝ่ายว่าด้วยปัญหานิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีได้เดินทางถึงสิงคโปร์เมื่อวันที่ 7 เมษายนนี้ เพื่อเข้าร่วมการเจรจาเป็นเวลา 1 วันที่สิงคโปร์ในวันที่ 8 เมษายนนี้ นับเป็นการเจรจาแบบทวิภาคีอีกครั้งต่อจากที่เคยจัดการเจรจาที่กรุงเจนีวาเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมาภายใต้กรอบการเจรจา 6 ฝ่าย จึงเป็นที่สนใจของฝ่ายต่างๆ

เมื่อเดินทางถึงสิงคโปร์ นายคิม เคีย-กวันไม่ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าว หากมุ่งตรงไปยังอาคารสถานทูตเกาหลีเหนือประจำสิงคโปร์ ส่วนนายคริสโตเฟอร์ ฮิลล์เมื่อเดินทางถึงสิงคโปร์แล้วได้เปิดแถลงข่าวโดยระบุว่า เรื่องการให้เกาหลีเหนือแจ้งโครงการนิวเคลียร์ของตนรอคอยเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว ไม่ควรให้ยืดเยื้อไปอีก หากควรมีผลคืบหน้าโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่แน่ใจว่าการเจรจากับนายคิม เคีย-กวันในครั้งนี้จะประสบผลคืบหน้าหรือไม่ ถ้ามีผลคืบหน้าก็จะยิ่งดี เพราะยังมีงานอีกมากมายที่จะต้องทำ

ตาม "เอกสารร่วม 3 ตุลาฯ" ซึ่งมีขึ้นเพื่อ "ปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมให้บรรลุผลในระยะที่ 2" ที่แถลงระหว่างการเจรจา 6 ฝ่ายว่าด้วยปัญหานิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมปีที่แล้ว เกาหลีเหนือควรทำลายสมรรถภาพของสิ่งปลูกสร้างนิวเคลียร์ 3 แห่งที่เขตยองเบียนและแจ้งโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมดของตนอย่างครบถ้วนและถูกต้องทุกประการก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2007 ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ จะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเกาหลีเหนือตามผลปฏิบัติการของเกาหลีเหนือ ส่วนฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือทั้งทางเศรษฐกิจ พลังงานและมนุษยธรรม

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ มีข้อขัดแย้งกันในเรื่องการแจ้งโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ จนทำให้ "เอกสารร่วม 3 ตุลาฯ" ดังกล่าวไม่ได้นำไปปฏิบัติตามกำหนดเวลา สหรัฐฯ ยึดหลักว่า เกาหลีเหนือควรแจ้งปริมาณของสารพลูโตเนียมตามจริง อีกทั้งยอมรับว่ามีโครงการสกัดสารยูเรเนียมเข้มข้นและเคยถ่ายโอนเทคโนโลยีนิวเคลียร์ให้แก่ซีเรีย ส่วนเกาหลีเหนือปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดและไม่ได้แจ้งโครงการนิวเคลียร์ของตนตามกำหนดเวลา

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว นายคริสโตเฟอร์ ฮิลล์กับนายคิม เคีย-กวันได้ดำเนินการหารือกันมาหลายรอบ ทั้งที่กรุงเปียงยางเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ที่กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ และที่กรุงเจนีวาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อีกทั้งเปิดช่องทางการเจรจาที่นครนิวยอรค์ใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นล้วนไม่สามารถให้เรื่องการแจ้งโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือคืบหน้าไปได้

สื่อมวลชนเกาหลีใต้เห็นว่า ความจริงแล้ว การที่สหรัฐฯ ต้องการที่จะให้เรื่องการแจ้งโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือคืบหน้าเป็นการด่วนก็เพื่อแสดงผลงานทางการทูตของรัฐบาลนายบุช เพราะหลังเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นกำหนดออกรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว รัฐบาลบุชก็ยากที่จะแสดงบทบาทอะไร ฉะนั้นจึงมีเวลาเหลือไม่มาก นอกจากนี้ นักวิเคราะห์มีความเห็นว่า การที่เกาหลีเหนือขึ้นเสียงกล่าวโจมตีเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา ก็เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อผู้นำชุดใหม่ของเกาหลีใต้ อีกทั้งเพื่อให้รัฐบาลบุชอ่อนข้อต่อเกาหลีเหนือก่อนจะหมดวาระ

(Dai/Ho)