นาย อนันต์ ศิริภัสราภรณ์
" คณะกรรมการโอลิมปิกไทยคงเห็นว่า ผมทำงานคลุกคลีอยู่กับเรื่องของกีฬา เรื่องของเยาวชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในญานะของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่เราก็พยายามทำตรงนี้ ให้เป็นมหานครแห่งกีฬา มีการสนับสนุนให้เด็ก ๆ เยาวชนทั้งหลายได้มีโอกาสเล่นกีฬา รู้จักกีฬา และที่สำคัญที่สุดคือ มีน้ำใจของนักกีฬา ด้วยความพยายามอย่างนี้ คณะกรรมการเขาเห็นว่า เราน่าจะต้องเป็นหนึ่งใน ๘๐ คนผู้วิ่งคบเพลิง ก็ถือว่าเป็นโชคดีของผมครับ "
ผู้สื่อข่าว
" ท่านรู้ขั้นตอนและรายละเอียดต่าง ๆ ของผู้วิ่งคบเพลิงท่านแรกต้องทำอะไรไหมครับ "
นาย อนันต์ ศิริภัสราภรณ์
" ผมคิดว่าน่าจะพอรู้ครับ เพราะตอนที่ คณะกรรมการจัดงานกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งเชิญผู้วิ่งคบเพลิงประเทศต่าง ๆ ไปซักซ้อมขั้นตอนต่าง ๆ ที่เมืองซานย่า มณฑลไหหลำของจีน ผมก็ได้ไปด้วย ในสันจัดพิธีวิ่งคบเพลิงที่กรุงเทพฯ เมื่อทางจีนมอบคบเพลิงกับผู้ว่าการกรุงเพทฯ ผมก็จะเข้าไปรับ ต่อ ซึ่งตรงนั้นผมคิดว่ามีสายตาของคนทั่วโลกจ้องอยู่ เพราะมีการถ่ายทอดไปทั่วโลกด้วย ผมถือว่า นั่นเป็นภาพที่ผมตื่นเต้นมากที่สุด และเมื่อรับคบเพลิงจากท่านผู้ว่า ก็ถือว่าเป็นการเริ่มกระบวนการของการวิ่งคบเพลิง ผมจะวิ่งไปมอบให้กับคนที่ ๒ "
ผู้สื่อข่าว
" อยากทราบว่า ท่านมีความเห็นอย่างไรต่องานกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งครับ"
นาย อนันต์ ศิริภัสราภรณ์
" กีฬาโอลิมปิกเป็นกีฬาของมนุษญชาติ กีฬาจเป็นตัวเชื่อมสัมพันธภาพของคนไม่ว่าจะมาจากเชื้อชาติไหน สีผิวไหน ความนับถือความเชื่อจะเป็นอย่างไร แต่กีฬามันคล้ายกับว่า เป็นตัวเดียวที่เชื่อมทุกคนที่มาจากต่างสถานะให้มาอยู่ร่วมกันได้ ผมเชื่อมั่นว่า ประเทศจีนจะประสบความสำเร็จในการจัดงานกีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง "
ผู้สื่อข่าว
" ในวันที่ ๑๙ เมษายนซึ่งเป็นวันวิ่งคบเพลิงงานกีฬาโอลิมปิกในกรุงเทพฯ เทศบาลนครกรุงเทพฯต้องรับผิดชอบส่วนไหนบ้างครับ "
1 2 3
|