สวัสดีครับ ท่านผู้งฟัง ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการจับมืออาเซียน รายการวันนี้ ขอเชิญท่านฟังบทสัมภาษณ์ของคุณผิงผิง ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอที่สัมภาษณ์นางวันเพ็ญ อัพทัน ผู้อำนวยการของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ตที่เดินทางมาประเทศจีน เพื่อสำรวจผลงานการพัฒนาชนบทใหม่ของประเทศจีนครับ

ผู้สื่อข่าว:สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟัง ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ วันนี้เราดีใจมากที่มีคุณวันเพ็ญมาพูดคุยกับเราในรายการค่ะ

วันเพ็ญ อัพทัน:สวัสดีค่ะ คุณผู้ฟัง ดิฉันวันเพ็ญ อัพทัน ทํางานอยู่ที่ภูเก็ต เป็นผู้อํานวยการของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต ได้มีโอกาสมาเยือนเมืองจีน ซึ่งมีความประทับใจมาเล่าให้ฟังค่ะ

ผู้สื่อข่าว:สําหรับวันนี้ คุณวันเพ็ญจะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับชนบทของประเทศจีนค่ะ

วันเพ็ญ อัพทัน:ใช่ค่ะ คือมีโอกาสได้เดินทางจากซีอัน ได้เดินทางไปหมู่บ้านเล็กๆ ต้องบอกว่ามีเสน่ห์ สะท้อนถึงความเข้มแข็งของชุมชน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อว่าตงหันค่ะ ซึ่งอยู่ในอําเภอฟู่เสี้ยน ที่นี่มีประชากรไม่ถึงพันคน ชาวบ้านบอกว่าหลังจากที่ประเทศจีนได้เปิดประเทศ ทําให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้นมาก เขาบอกว่าผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ข้อมูลนี้ได้จากผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านที่น่ารักมาก อายุ 61 ปี สุขภาพแข็งแรง สุขภาพกายดี สุขภาพจิตดีมาก เป็นคนอารมณ์ขัน และเล่าเรื่องราวต่างๆของหมู่บ้านนี้ด้วยความภาคภูมิใจให้พวกเราฟัง

ผู้สื่อข่าว:ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนที่ได้่รับการเลือกตั้งมา เขาได้ดํารงตําแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมา 6 สมัยแล้ว ไม่ทราบว่าเรารู้สึกว่าเสน่ห์อะไรที่ทําให้เขาได้ชนะการเลือกตั้ง

วันเพ็ญ อัพทัน:ดิฉันคิดว่าไม่แปลกใจนะคะที่ผู้ใหญ่บ้านคนนี้อายุ 61 ปีแล้วได้รับเลือกตั้งมาหลายสมัีย เพราะเขาบอกว่าเขามีหลักในการทํางาน 3 ประการด้วยกัน ประการแรกคือมีความจริงใจ หมายความว่าพูดจริงไม่โกหกชาวบ้าน อันที่สอง แก้ไขปัญหาพัฒนาหมู่บ้านอย่างจริงใจตั้งอกตั้งใจ แล้วดูแล้วเขาทําอย่างงั้นจริงๆจากการที่ไปสัมผัสเขา อีกข้อหนึ่งก็คือดูแลชาวบ้านลูกบ้านเหมือนเป็นครอบครัวของตัวเองหรือดีกว่าครอบครัวของตัวเองเสียอีก เพราะฉะนั้นปัจจัย 3 ข้อนี้ทําให้เขาได้รับเลือกตั้งหลายสมัย และอายุ 61 แล้วยังทํางานด้วยความสุข ซึ่งจากการที่พวกเราไปสัมภาษณ์วันนี้ก็เข้าใจได้ว่าเขาเป็นอย่างงั้นจริงๆ อย่างพวกเราเมื่อไปถึง ผู้ใหญ่บ้านก็นําชมที่ต่างๆในหมู่บ้าน แต่ที่สําคัญเมื่อเวลาไปทานอาหารกัน การนั่งวงร่วมรับประทานอาหารร่วมกันก็จะรู้จักคนมากขึ้น มีทั้งอารมณ์ขัน มีทั้งการภูมิใจนําเสนอประวัติของหมู่บ้าน เพราะฉะนั้น แสดงถึงความเข้มแข็งของผู้นํา เมื่อผู้นําเข้มแข็ง มีความจริงใจ มีความตั้งใจจริง พร้อมที่จะดูแลแก้ปัญหาให้ลูกบ้าน ความร่วมมือร่วมใจในหมู่บ้านก็จะเกิดขึ้นมา ตอนแรกคณะบอกว่าไปดูหมู่บ้านชนบท แต่ความจริงแล้ว ไปดูแล้วคุณภาพดีมาก แล้วเป็นบ้านสองชั้น มีเครื่องอํานวยความสะดวกทุกอย่าง ที่สําคัญข้อหนึ่งที่ดิฉันจําไม่ลืมก็คือบอกว่าคนที่นี่มีบ้าน มีรถ มีเครื่องอํานวยความสะดวกต่างๆ ที่สําคัญคือเขาไม่มีหนี้ อันนี้เหลือชื่อจริงๆ อันนี้ดิฉันคิดว่าน่าจะเอาประเด็นนี้ไปขยายผลไปเล่าให้ลูกหลานที่บ้านฟังต่อไปว่า ความจริงแล้ววิถีชีวิตแบบพอเพียง แต่พอเพียงในที่นี่หมายความว่าเป็นเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ดิฉันมองอย่างงั้น เป็นตัวอย่างที่ดีจริงๆค่ะ