พระโพธิสัตว์เหวินซูกลับไปถึงเขาอู่เฟิง พอดีพระอาทิตย์ร้อนแผดเผาส่องแดดจ้าอยู่กลางท้องฟ้า เนื่องจากแห้งแล้งมาเป็นเวลานานและไม่มีฝนตก พื้นดินแห้งจนแตกแขนง ผู้คนมีความทุกข์ยาก พระโพธิสัตว์วางหินวิเศษลงในหุบเขา สิ่งมหศจรรย์เกิดขึ้นทันที เขาอู่เฟิงกลายเป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์ธรรมชาติที่เย็นสบายไปในทันที ด้วยเหตุนี้ หุบเขาดังกล่าวจึงได้สมญานามว่า "หุบเขาเย็นสบาย"หรือ "หุบเขาชิงเหลียง" ผู้คนได้สร้างวัดแห่งหนึ่งขึ้นที่นี่ ตั้งชื่อว่าวัดชิงเหลียง เขาอู่เฟิงก็เปลี่ยนชื่อเป็นเขาชิงเหลียง จนถึงทุกวันนี้ เขาอู่ไถจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเขาชิงเหลียง
เขาอู่ไถเป็นเขตท่องเที่ยวระดับชาติของจีน ทั้งมีทิวทัศน์ที่เป็นสิ่งปลูกสร้างทางวัฒนธรรมจำนวนมากที่มีภูมิหลังทางพุทธศาสนา และมีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงาม เขตท่องเที่ยวทั่วบริเวณนี้มีวัดโบราณถึง 42 แห่ง ในจำนวนนี้ วัดหนันฉันและวัดโฝกวางสร้างขึ้นในสมัยราชวงค์ถัง มีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นเวลา 1,200 ปีแล้ว เป็นสถาปัตยกรรมโครงสร้างไม้ที่เก่าแก่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน เขาอู่ไถจึงไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงโฉมหน้าทางประวัติศาสตร์แห่งการพัฒนาศาสนาสมัยโบราณและศิลปกรรมทางศาสนาของจีนเท่านั้น หากยังแสดงถึงผลงานที่เป็นศูนย์รวมของศิลปะสถาปัตยกรรมสมัยโบราณอีกด้วย
ในฐานะที่เป็นเขตทิวทัศน์ทางธรรมชาติระดับชาติ เขาอู่ไถมีโขดหินแปลกตา มีสายน้ำเล็กๆไหลผ่านและมีต้นไม้ใบหญ้าปกคลุมหนาแน่น เนื่องจากบนยอดเขามีหิมะปกคลุมตลอดปี ทำให้อากาศเย็นสบายแม้ในช่วงฤดูร้อน นับเป็นแหล่งพักผ่อนที่ดีเยี่ยม
1 2
|