หวางหย่งเฟิงยังได้เล่าประสบการณ์ในการไต่ขึ้นสู่ยอดเขา จูมูลังมาครั้งหนึ่งให้ผู้สื่อข่าวฟัง เขากล่าวว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาไม่สามารถติดต่อกับสมาชิกคนอื่น ๆ ได้ในระหว่างไต่ขึ้นสู่ยอดเขาจูมูลังมาเป็นเวลา ๒๘ ชั่วโมง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หมายความว่า หลงทาง ไม่สามารถหาทางกลับได้ แต่ในที่สุด หวางหย่งเฟิงได้หาทางกลับค่ายได้โดยลำพังอย่างน่ามหัศจรรย์ อย่างไรก็ตาม เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส จากอากาสที่หนาวจัดทำให้นิ้วเท้าของเขาต้องด้วนไป ๓ นิ้ว หวางหย่งเฟิงกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทุกครั้งที่ผมลงมาจากยอดเขาจูมูลังมา ผมคิดในใจอยู่ตลอดว่า ชีวิตคนเรามีค่า ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด ทั้งสิ้น
หลังส่งคบเพลิงงานกีฬาโอลิมปิกขึ้นสู่ยอดเขาเป็นเวลา ๔ วัน เกิดภัยแผ่นดินไหววัดได้ระดับ ๘ ริกเตอร์ที่ อำเภอเวิ่นชวน มณฑล เสฉวน หวางหย่งเฟิงและสมาชิกทีมไต่เขารีบเข้าร่วมงานกู้ภัย บริจาคเงินและสิ่งของให้แก่เขตประสบภัย นอกจากนี้ ยังได้เล่าประสบการณ์การไต่เขาของตนให้ประชาชนในเขตประสบภัยฟังเพื่อให้กำลังใจพวกเขา เขากล่าวว่า
คนเราถ้ามีความแข็งแกร่ง ใจเราจะเกิดความเชื่อมั่นขึ้น และสามารถขจัดความยากลำบากทุกอย่างได้ ดังนั้น เมื่อผมมองเห็นความแข็งแกร่งของประชาชนในเขตประสบภัย ผมนึกในใจว่า ประชาชนในเขตประสบภัยจะสามารถขจัดความยากลำบากต่าง ๆ และสร้างสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นอย่างแน่นอน จริง ๆ แล้ว ไม่เฉพาะประชาชนในเขตประสบภัยเท่านั้นที่มีความแข็งแกร่ง ผู้บรรเทาภัยจำนวนมากก็มีความแข็งแกร่งเช่นกัน เจตนารมณ์นี้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของงานกีฬาโอลิมปิกคือ เร็วยิ่งขึ้น สูงยิ่งขึ้นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ถ้ามีเจตนารมณ์เช่นนี้ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ล้วนสามารถทำได้ดียิ่งขึ้น
หวางหย่งเฟิงกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จากนี้ไป เขาคงไม่มีโอกาสที่จะไต่ขึ้นสู่ยอดเขาจูมูลังมาอีก เนื่องจาก อายุและสภาพร่างกายไม่อำนวย แต่ความผูกพันระหว่างเขากับยอดเขาจูมูลังมาคงไม่จบลงเพียงแค่นี้ เขากล่าวว่า
ในอานาคต ผมจะเผยแพร่ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการไต่เขาและการผจญภัยให้แก่คนวัยหนุ่มสาว
(cai) 1 2
|