เมื่อเผชิญกับผู้ประท้วงคัดค้านรัฐบาลจำนวนหลายหมื่นคนที่ล้อมรอบทำเนียบนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีไทยยืนหยัดไม่ลาออกจากดำแหน่ง แต่ขณะเดียวกันก็แสดงว่า ยอมรับการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายรัฐบาลของรัฐสภา พร้อมกันนี้ พรรคประชาธิบัตย์ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านจะดำเนินการลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับญัตติไม่ไว้วางใจนายสมัคร สุนทรเวชและสมาชิกคณะรัฐมนตรีอีก 7 คนในเร็วๆนี้

ช่วงระยะนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีไทยต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสองฝ่าย ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมเป็นต้นมา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่คัดค้านพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และสนับสนุนรัฐประหารปี 2006 ได้จัดการชุมนุมขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำผู้ประท้วงฝ่าวงล้อมของตำรวจ ย้ายสถานที่ชุมนุมไปยังบริเวณรอบๆ ทำเนียบรัฐบาล ผู้นำของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวว่า นายสมัครเป็นหุ่นของ

พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป้าหมายในปัจจุบันของ กลุ่มพันธมิตรฯก็คือเรียกร้องให้นายสมัครลาออกจากตำแหน่ง ขจัดอิทธิพลทางการเมืองของกลุ่มทักษิณอย่างสิ้นเชิง และให้พ.ต.ท.ทักษิณรับการพิจารณาตัดสินคดีที่เป็นธรรม นอกจากนี้ นายสมัครและรัฐมนตรีที่มาจากพรรคพลังประชาชนอีก 7 คนยังจะต้องเผชิญกับญัตติไม่ไว้วางใจที่เสนอโดยพรรคประชาธิบปัตย์

ปัจจุบัน นายสมัครได้ยอมอ่อนข้อต่อญัตติไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 22 ที่ผ่านมา นายสมัครกล่าวคำปราศัยทางโทรทัศน์สุดสัปดาห์ว่า เขาจะรับการกระทุถามจากวุฒสภาในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ และมีการอภิปรายญัตติไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านในวันที่ 24 และ 25 นี้

ทว่านายสมัครมีท่าทีแข็งกร้าวต่อเสียงเรียกร้องให้ลาออกของกลุ่มพันธมิตรฯ เขากล่าวว่า กิจกรรมประท้วงที่จัดโดยกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การจัดการประท้วงก็เพราะว่าผู้นำของกลุ่มพันธมิตรฯ เกลียดชังพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับรัฐบาลปัจจุบัน และการจัดการปัญหาของพ.ต.ท.ทักษิณกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการทางกฎหมาย เขาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ชอบด้วยกฎหมายที่เกิดจากการเลือกตั้ง จะลาออกเพราะการประท้วงไม่ได้ เขาจะไปเข้าทำงานที่ทำเนียบตามปกติ และหน่วยงานรัฐบาลต่างๆก็จะดำเนินงานตามปกติด้วย

นักวิเคราะห์เห็นว่า สถานการณ์การเมืองของไทยดูเหมือนตึงเครียด แต่ยังสงบอยู่

แม้ว่ามีการประท้วง แต่การดำรงชีวิตของประชาชนเป็นไปตามปกติ รัฐบาลสมัครมีท่าทียับยั้งชั่งใจต่อการประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯมาโดยตลอด ไม่ได้ใช้มาตรการขับไล่ผู้ประท้วง กล่าวได้ว่า เงื่อนไขในการปกครองประเทศของรัฐบาลสมัครจะอยู่ต่อไปได้หรือไม่อยู่ที่ฝ่ายทหาร จนถึงปัจจุบัน ฝ่ายทหารของไทยรักษาท่าทีเป็นกลาง การมีการติดต่อกับนายสมัครบ่อยครั้งนั้น ทำให้มีความเป็นไปได้น้อยที่ฝ่ายทหารจะก่อรัฐประหารอีกครั้ง พลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้ปบัญชาการทหารสูงสุดกล่าวเมื่อเร็วๆนี้ว่า ทหารไม่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการขัดแย้งทางการเมือง ผู้นำการเมืองของสองฝ่ายควรแก้ไขปัญหาโดยผ่านการเจรจา

สื่อมวลชนไทยวิเคราะห์ว่า ถ้ารัฐบาลใช้ท่าทียับยั้งชั่งใจต่อไป กลุ่มพันธมิตรฯก็จะมีอิทธิพลน้อยลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับคำกล่าวของนายสมัคร ที่ว่าเขาจะต้องมีความอดทนต่อการประท้วงคัดค้านรัฐบาล เมื่อปวงชนขาดความอดทนต่อกลุ่มพันธมิตรฯแล้ว เมื่อนั้นเขาก็จะใช้ปฏิบัติการ