China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2008-06-30 14:58:46    
วัดฝ่าเหมิน

cri

สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟัง ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเล่าเรื่องเมืองจีน พบกับดิฉันผิงผิงอีกเช่นเคยนะคะ รายการวันนี้ ผิงผิงจะแนะนำวัดฝ่าเหมินในมณฑลสั่นซีให้ท่านผู้ฟังได้รู้จักค่ะ

จากเมืองซีอัน เมืองสำคัญของมณฑลสั่นซี เดินทางไปทิศตะวันตกประมาณ 110 กิโลเมตร ก็ไปถึงอำเภอฝูเฟิง จากอำเภอฝูเฟิงไปทางเหนืออีก 10 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดฝ่าเหมิน วัดที่มีชื่อเสียงของพุทธศาสนา เมื่อทศวรรษ 1980 เจดีย์เก่าแก่ของวัดฝ่าเหมินอยู่ๆก็พังลง พระสงฆ์ในวัดจึงขออนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่น เตรียมสร้างเจดีย์ใหม่ขึ้น ขณะที่สำรวจเจดีย์เก่า ได้ค้นพบห้องลับใต้เจดีย์ เป็นห้องลับที่ปิดไว้ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง มากว่าพันปีแล้ว นักประวัติศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญชุมนุมกันที่วัดฝ่าเหมิน ค่อยๆเปิดห้องลับออกมา ได้พบว่า ที่นี่ ไม่ใช่ห้องลับเล็กๆ หากเป็นวังใต้ดินที่เก็บสิ่งของล้ำค่าของโลก ทรัพย์สินที่เก็บไว้ในนี้ ส่วนใหญ่เป็นชิ้นเดียวของโลก มีคุณค่าสูง ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ ในวังใต้ดินแห่งนี้ ได้เก็บพระบรมสารีริกธาตุของพระศากยมุนีพุทธเจ้าไว้ด้วย วัดฝ่าเหมินจึงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่นับถือพุทธศาสนา สิบกว่าปีที่ผ่านมา แต่ละปีมีคนหลายล้านคนเดินทางมาคารวะพระบรมสารีริธาตุและแลกเปลี่ยนความเห็นทางวิชาการกัน วัดฝ่าเหมินได้เปิดให้ชาวโลกเห็นถึงสภาพความเจริญของสมัยราชวงศ์ถังและความเจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในราชวงศ์ถังด้วย

ปัจจุบัน วัดฝ่าเหมินได้เปิดพิพิธภัณฑ์ขึ้นมาเพื่อเก็บรักษาโบราณวัตถุที่นำออกจากห้องใต้ดิน พอเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์แล้ว รู้สึกว่าตื่นเต้นมาก เนื่องจากมีสิ่งของหลายอย่างที่ไม่เคยคาดคิดถึงในชีวิต วันนี้ จะนำมาเล่าให้ฟังค่ะ

สำหรับวัดฝ่าเหมินที่ดึงดูดสายตาทั่วโลก โดยเฉพาะความสนใจของพุทธศาสนิกชนคือ พระบรมสารีริกธาตุของพระศากยมุนี เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ฝ่าเหมินเล่าให้ฟังว่า พอเปิดห้องใต้ดินออกมาแล้ว ได้พบว่ามีพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมด 4 องค์ รูปลักษณะคล้ายกัน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญและพระสงฆ์ตกใจ เพราะว่าตามบันทึกไว้ มีองค์เดียวเท่านั้น ทั้งสี่องค์นี้ต่างบรรจุอยู่ในผอบสวยงามมาก เป็นผอบหลายชั้นที่ทำขึ้นจากไม้จันทน์ หยก เงิน ทอง เป็นต้น โดยแยกไม่ออกว่าองค์ไหนเป็นของแท้ องค์ไหนเป็นของทำเทียม หลังจากผู้เชี่ยวชาญใช้เวลาพิจารณาและตรวจสอบตามหลักวิทยาศาสตร์อยู่นานแล้ว จึงได้แยกพระบรมสารีริธาตุองค์จริงออกมาจากส่วนที่ทำจากหยกและอัฐิของพระสงฆ์ที่มรณภาพแล้ว โดยมีคำกล่าวว่า การที่ทำของเทียมขึ้นมา มีสาเหตุสองประการ หนึ่ง ในสมัยราชวงค์ถัง ทุก 30 ปี กษัตริย์จะอัญเชิญพระบรมสารีริธาตุจากวัดฝ่าเหมินไปเมืองฉางอัน เมืองหลวงในสมัยนั้น เพื่อแสดงถึงความเคารพของราชสำนักและให้ชาวบ้านมีโอกาสคารวะ แต่เจ้าอาวาสและผู้ที่เกี่ยวข้องทางศาสนาพุทธก็ตระหนักว่า พระบรมสารีริกธาตุเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดทางพุทธศาสนา ถ้ากษัตริย์ไม่ยอมคืนให้ หรือเกิดการผิดพลาดทำให้เสียหาย ก็จะไม่มีวิธีการแก้ไขได้ จึงทำของเทียมขึ้นมาให้กษัตริย์อัญเชิญไปเมืองหลวง ประการที่สอง ถึงช่วงหลังๆนี้ ประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายสมัย บางสมัยเคารพยกย่องพุทธศาสนา บางสมัยทำลายศาสนา เพื่ออนุรักษ์พระบรมสารีริธาตุไม่ให้ถูกทำลาย พระสงฆ์จึงตั้งใจประดิษฐเลียนแบบขึ้นมาอีก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอีก 3 องค์นั้นเป็นของแทนเท่านั้น แต่ก็มีความสำคัญเช่นกัน และเป็นสิ่งของล้ำค่าโดยไม่แพ้ของอื่น

    

1 2