นางจัง อิ้นผิง ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในเขตฉาวหยังของกรุงปักกิ่ง กล่าวทบทวนว่า ก่อนปฏิรูปประเทศ ไปซื้อของด้วยเงินอย่างเดียวไม่ได้ ยังต้องใช้คูปอง เพราะสมัยนั้นระบบเศรษฐกิจของจีนเป็นระบบเศรษฐกิจวางแผน ชาวจีนทุกคนมีโควตาในการซื้อของทุกอย่าง ต้องใช้คูปองควบคุม ไม่ใช่คุณรวยแล้วคุณก็ซื้อของได้มากกว่า เมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน ครอบครัวธรรมดาถ้าซื้อหมู อาหารแปรรูปจากถั่วเหลืองและผักกาดขาวได้ครบ ก็จะถือว่าดีมากแล้ว จนถึงทศวรรษ 1990 ระบบการตลาดของจีนกลายเป็นเศรษฐกิจการตลาด เลยเลิกใช้คูปอง สินค้าที่ชาวบ้านเลือกซื้อได้ จึงมีหลากหลายขึ้นมา ปัจจุบัน เมื่อถึงตรุษจีน ในคืนวันสุกดิบถ้าไม่อยากทำอาหารที่บ้าน เราก็ไปจองโต๊ะจีนที่ภัตตาคาร สะดวกมาก
ทุกวันนี้ เป็นที่ยอมรับว่า ประชาชนจีนทุกคนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงจากการดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศแล้ว ทุกบ้านมีเงินออมในธนาคารเพิ่มขึ้น คนจีนใส่เสื้อผ้าตามแฟชันไม่แพ้ชาวต่างชาติ เมื่อมีเวลาว่าง คนจีนก็ไปพักผ่อนหย่อนใจในโรงภาพยนต์และโรงคอนเสิร์ตเช่นกัน ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนในปัจจุบันกับเมื่อก่อน ต่างกันราวฟ้ากับดิน
ชาวบ้านทั่วไปของจีน มักจะสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของตนเองเสมอ เมื่อผู้สูงอายุและคนวัยกลางคนเล่าถึงชีวิตในช่วงก่อนปฏิรูปและเปิดประเทศ วัยรุ่นก็จะรู้สึกเหมือนฟังนิทาน เพราะห่างกับสภาพความจริงของชีวิตปัจจุบันมากเหลือเกิน ความจริง ชาวต่างชาติที่มีอายุหน่อยมักจะอุทานกับความก้าวหน้าของสังคมจีน และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทุกวันของชาวจีน ถ้าเคยมาเที่ยวในประเทศจีนตั้งแต่เมื่อก่อน ใช่ไหมครับ สุดท้าย เรามาดูตัวเลขสถิติชุดหนึ่ง ตั้งแต่ค.ศ.1978 จนถึงค.ศ.2008 รายได้ของชาวจีนเพิ่มจาก 343 หยวนมาเป็น 13,786 หยวน ขณะที่รายได้ของชาวชนบทเพิ่มจาก 134 หยวนมาเป็น 4,140 หยวน เป็นหลักฐานชัดเจนที่สุดที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ในช่วง 30 ปีแห่งการดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจีนเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวง การปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นหนทางเดียวที่นำชาวจีนสู่ชีวิตที่มีความสุขยิ่งในอนาคตอย่างแน่นอน 1 2
|