สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟัง ขอต้อนรับเข้าสู่รายการจับมืออาเซียนค่ะ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มณฑลเสฉวนของจีนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง จนถึงเวลา 12 นาฬิกาของวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ แผ่นดินไหวอำเภอเวิ่นชวนมณฑลเสฉวนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 69,195 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บ 374,176คน และสูญหาย 18,389 คน

และจนถึงเวลา 12 นาฬิกาของวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ จีนได้รับเงินและสิ่งของที่วงการต่าง ๆ ในสังคมบริจาคคิดเป็นมูลค่า 55,700 ล้านหยวน และได้จัดสรรเงินและสิ่งของให้แก่เขตประสบภัยเป็นมูลค่า 20,000 ล้านหยวน ในจํานวนนี้ ก็มีส่วนหนึ่งจากชาวไทยและประเทศไทยด้วย รายการวันนี้ เราได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจี ในหัวข้อ"ชาวไทยสนใจภัยแผ่นดินไหวเวิ่นชวนของจีน"ค่ะ

ผู้สื่อข่าว:วันนี้เรามีโอกาสเชิญพณ ฯ ท่านรัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูตไทยประจําประเทศจีนมาร่วมรายงานของเราค่ะ

รัฐกิจ มานะทัต:สวัสดีครับ

ผู้สื่อข่าว:ในวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประเทศจีนประสบภัยแผ่นดินไหว มีความเสียหายและคนเสียชีวิตมาก ไม่ทราบว่าประเทศไทยมีความช่วยเหลือประเทศจีนอย่างไรบ้างคะ

รัฐกิจ มานะทัต:ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องความช่วยเหลือ ผมอยากพูดเรื่องความรู้สึกก่อน ในวันที่เกิดเหตุการณ์ ผมไปราชการที่มาเก๊า เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ท่านผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทยก็โทรศัพท์สอบถาม คนไทยทั้งหมดรู้สึกเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดกับคนไทยด้วย ไม่ใช่เกิดกับคนที่อยู่ห่างไกลกัน อันนี้ทําให้ผมรู้สึกว่า ความผูกพันทางสายเลือดมีจริง เหตุการณ์ครั้งนี้เมื่อผมพบคนไทยขณะกลับไปประชุมไม่กี่วันที่ผ่านมา หรือผมรับโทรศัพท์สอบถาม ความห่วงใยที่เกิดขึ้นมีอยู่จริง ๆ ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงความเสียใจต่อผู้นําจีน ต่อประชาชนจีน ทรงห่วงใยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนไทยเช่นกัน เอาที่ใกล้ตัวก่อน อย่างที่ปักกิ่งที่ผมทราบ ปักกิ่ง เฉิงตู คุนหมิง เซี่ยงไฮ้รวมทั้งฮ่องกง 8 แห่ง ที่สถานทูตไทยมีคนไทยมายื่นความจํานงที่จะบริจาคทรัพย์สินเงินทอง อย่างที่ปักกิ่ง มีบริษัทบริจาค 2 แสน เพราะว่าเขาอยากแสดงความนํ้าใจ ขณะที่นักเรียนเองก็มาบริจาค มีคนเสนอผมว่าอยากบริจาคโลหิตด้วย เพราะว่ามีความผูกพันกัน แต่ปรากฎว่าโลหิตของทางการจีนมีเพียงพอแล้ว ในความช่วยเหลือทั้งหมดที่มี รวมแล้วมีประมาณ 6 ล้านหยวน ถ้าถามผมว่า ถ้าเทียบกับความเสียหายของจีนแล้วความช่วยเหลือนี้มากไหม ไม่มาก เพราะว่าเสียหายใหญ่หลวงเกิน แต่ก็เป็นสิ่งที่อยากเรียนให้ทราบว่าจากจิตใจ ตั้งแต่พระราชวงศ์ของไทย ชาวบ้านธรรมดา ราชการ อย่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของผม ขณะผมอยู่มาเก๊าท่านก็โทรศัพท์มาถามประมาณทุกครึ่งชั่วโมง โทรมาถามว่าเป็นอย่างไรมีความคืบหน้าไหม เพราะว่าการติดต่อต่าง ๆ ที่เมืองเฉิงตูไม่สะดวกเท่าที่ควรในช่วงนั้น ก็ต่อผ่านผม นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเองทําหน้าที่แทนรัฐบาลไทย แทนประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในจีนไปมอบเงินช่วยเหลือที่ว่าให้กับรัฐบาลจีน สิ่งหนึ่งที่อยากจะพูดในวันนี้คือ ในความสูญเสียที่เกิดขึ้นมีสิ่งที่ผมว่าผู้นําในทุก ๆ ประเทศน่าจะเห็นว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นผู้นําจีนได้ทําอย่างไร เราเห็นว่าผู้นําจีนไป ภาพที่มีความรู้สึกร่วมจากรูปถ่ายก็ดีจากทางสื่อมวลชนก็ดี นี่คือสิ่งที่ผมว่าคนจีนโชคดี ในความโชคร้ายนี้มีความโชคดีที่มีผู้นําห่วงใย โชคดีที่สองในความโชคร้ายนี้ก็คือ ผมว่าเป็นประเทศอยู่ในโลกนี้เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้โลหิตยังเหลือ ที่อื่นไม่มี แสดงว่าคนจีนทั้งหมดในประเทศจีนร่วมกันเป็นนํ้าหนึ่งใจเดียวกันเมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ เหตุการณ์อย่างนี้จะบอกอะไรเยอะ และสิ่งนี้คือสิ่งที่ในความเศร้าโศกประเทศจีนต้องจําตรงนี้ ก็มีสิ่งดี ๆ ที่ผมว่าน่าภาคภูมิใจเกิดขึ้นครับ