เมื่อวันที่ ๘ และวันที่ ๙ กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาและศาลรัฐธรรมนูญไทยมีคำพิพากษาตัดสิน 3 คดี โดยคดีแรก พิพากษาว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรให้สินบนในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งปีค.ศ.2007 คดีที่สอง กรณีนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชาสนับสนุนการยื่นเสนอให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และคดีที่สามกรณีนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการแจ้งทรัพย์สินสมบัติของสมาชิกคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ นักวิเคราะห์เห็นว่า คำพิพากษาสามฉบับดังกล่าวทำให้รัฐบาลสมัครและพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นแกนนำสำคัญในพรรคร่วมรัฐบาลต้องเผชิญกับวิกฤตอีก ที่รุนแรงที่สุดในบรรดาคำพิพากษาสามฉบับดังกล่าวคือคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีให้สินบนในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช เมื่อคืนวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาพิพากษาว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัชมีพฤติกรรมให้สินบนในระหว่างการเลือกตั้งที่จัดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคมปี 2007 กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งของไทยระบุว่า คำพิพากษาดังกล่าวทำให้นายยงยุทธ ติยะไพรัชต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยและห้ามมีส่วนร่วมในการเมืองเป็นเวลาูู ๕ ปี เนื่องจากขณะจัดการเลือกตั้งทั่วไปปีที่แล้ว นายยงยุทธ ติยะไพรัชดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ศาลรัฐธรรมนูญจึงจะดำเนินการพิจารณาเพื่อตัดสินว่าพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัชนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชนหรือไม่ หากศาลตัดสินว่า มีความพัวพันกัน ก็จะยุบพรรคพลังประชาชน กรรมการผู้อำนวยการของพรรคพลังประชาชนรวมถึงนายสมัคร สุนทรเวชเป็นต้นก็จะถูกห้ามมีส่วนร่วมการเมืองเป็นเวลา๕ปีเช่นกัน นอกจากนี้ เมื่อวันที่ ?๘ กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่านายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีการกระทำที่ขัดต่อต่อรัฐธรรมนูญซึ่งก็เป็น"ระเบิดลูกใหญ่"ที่ถลุ่มรัฐบาลสมัคร แถลงการณ์ร่วมที่ไทยและกัมพูชาลงนามกันเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้นระบุว่า รัฐบาลไทยสนับสนุนการยื่นเสนอให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม แม้ว่ารัฐบาลสมัครกล่าวได้เน้นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ไทยไม่ได้เสียดินแดนไปเพราะเรื่องนี้ก็ตาม แต่ประชาชนไทยบางส่วนยังคงมีอารมณ์"ลัทธิชาตินิยม"อย่างสูง ภายในประเทศไทย มีเสียงคัดค้านกัมพูชายื่นเสนอให้ปราสาทเขาพระวิหารอยู่ในบัญชีรายชื่อมกดกโลกโดยลำพังฝ่ายเดียวดังขึ้นทุกวัน นายนพดล ปัทมะก็ย่อมจะตกเป็นเป้านิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่๗กรกฎาคมที่ผ่านมาเห็นว่า การกระทำของนายนพดล ปัทมะไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทันทีที่ศาลประกาศคำพิพากษา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคนก็กล่าวว่า จะยื่นญัตติกล่าวโทษต่อนายนพดล ปัทมะ และคณะรัฐมนตรีที่นำโดยนายสมัคร สุนทรเวชทั้งคณะ เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญไทยได้ออกคำพิพากษากรณีว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฝ่าฝืนต่อข้อบังคับเกี่ยวกับการแจ้งทรัพย์สินของสมาชิกคณะรัฐมนตรี จึงไม่มีคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งอีก นายไชยา สะสมทรัพย์กลายเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีคนที่สองที่ถูกปลดจากตำแหน่งเนื่องจากมีพฤติกรรมผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคมที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวชไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับคำพิพากษา 3 ฉบับดังกล่าว รัฐบาลที่นำโดยนายสมัคร สุนทรเวชจะไปสู่ทิศทางเช่นไร คำตอบของนายสมัคร สุนทรเวชคือ จะให้คำตอบในรายการสนทนาประชาชนทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีโทรทัศน์ในวันที่ ๑๓ เดือนนี้ Min/Danx
|