ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมเป็นต้นมา ทุกวันเมื่อดิฉันกลับบ้านต้องดูทีวีอย่างไม่กะพริบตาเป็นอันขาดจนกระทั่งเกือบทั้งคืน มีหนังอะไรที่สนุกถึงขนาดนี้ไหม ไม่ใช่ สิ่งที่ดิฉันให้ความสนใจอย่างสูงสุดคือ รายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวเวิ่นชวนที่เกิดขึ้นในมณฑลเสฉวน ทุก ๆ ครั้งข่าวสารที่โศกเศร้าน่าเวทนาต่าง ๆ ทำให้ดิฉันทนอึดอัดไม่ไหว แต่ในขณะเดียวกันดิฉันก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง เนื่องจากพฤติกรรมอันอาจหาญของทหารปลดแอกประชาชนจีน ดิฉันได้เห็นความกล้าหาญ ความพยายาม ความรักของพวกเขาต่อผู้ประสบภัย
เมื่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวเวิ่นชวนเกิดขึ้น ทางหลวงที่เข้าสู่เขตเวิ่นชวนอันเป็นเขตศูนย์กลางที่ประสบภัยร้ายแรงที่สุดถูกทำลายและสกัดกั้น ทหารปลดแอกประชาชนจีนจำนวน 200 คน ตัดสินใจเดินเท้าเข้าสู่เขตเวิ่นชวนเพื่อหาทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เพราะเวลาก็หมายถึงชีวิต การช่วยเหลือต้องทำแข่งเวลา พวกเขาเดิน 91 กิโลเมตรโดยใช้เวลาติดต่อกัน 21 ชั่วโมง ท่านนึกถึงไหมว่าไม่มีทางเดิน ล้วนเป็นทางภูเขาอันขรุขระ ไม่มีมาตรการปกป้อง สองข้างล้วนเป็นหน้าผาสูงชัน แถมยังมีแผ่นดินไหว ขนาดย่อมหลาย ๆ ครั้ง แม้ในสภาพแย่ถึงอย่างนี้ พวกฺทหารยังเดินทางเข้าสู่เขตประสบภัยได้สำเร็จและเริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือ
ไม่ว่าอยู่ที่ไหน คุณก็จะได้เห็นทหารปลดแอกจีน พวกเขากระโดดร่มจากท้องฟ้าสูงกว่าพันเมตรเพื่อเข้าสู่เขตประสบภัยที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงกับแม่น้ำเชี่ยวกรากอย่างไม่กลัวอันตราย ไม่กลัวได้รับบาดเจ็บ พวกเขาพยายามหาทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ถูกฝังภายใต้ซากปรักหักพัง ขจัดอุปสรรคต่าง ๆ นานา แข่งกับเวลาเพื่อช่วยประชาชนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างไม่รู้เหนื่อย พวกเขาค้นหาขุดพบผู้ประสบภัยทุกหนทุกแห่ง ช่วยผู้คนที่ถูกปิดล้อมด้วยทุกวิถีทาง " ให้ผมไปช่วยอีกคนหนึ่งได้ไหมครับ " นี่เป็นความปรารถนาของทหารปลดแอกจีนทุกคน พวกเขายืนหยัดและกล้าหาญทำสิ่งมหัศจรรย์แห่งชีวิตครั้งแล้วครั้งแล่า
ทุก ๆ ครั้งที่ประเทศจีนเกิดเหตุการณ์ ทหารปลดแอกจีนมักจะเป็นพวกแรกที่วิ่งพุ่งไปข้างหน้าโดยตลอด พวกเขาปกป้องประชาชน ป้องกันประเทศชาติด้วยร่างกายของเขาเอง พวกเขาไม่เคยขออะไรตอบแทน เพราะทหารจีนเป็นลูกหลานของประชาชนจีน ประชาชนจีนเลี้ยงพวกเขา พวกเขามีหน้าที่พิทักษ์ปกป้องประชาชน ประเทศชาติจนกว่าชีวิตของตนจะสิ้นสุดลง
|